ผบช.สอท.เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ลดลงเหลือ 800 คดี/วัน

บช.สอท. 18 มี.ค. – ผบช.สอท.เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ลดลงเหลือ 800 คดีต่อวัน หลังเดินหน้าเร่งปราบปรามอาชญากรออนไลน์ทุกรูปแบบ พร้อมเผยผล 8 ปฏิบัติการสำคัญ


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. พร้อมด้วยตำรวจไซเบอร์ ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการล่าเครือข่ายโจรออนไลน์ตามรวบแก๊งมิจฉาชีพและเว็บพนัน โดยได้เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 8 เป้าหมาย โดยเปิดเผยว่า วันนี้เป็นการแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหากว่า 10 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดออนไลน์ ทั้งการจับกุมเครือข่ายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าปัจจุบันตามนโยบายรัฐบาลมีการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ทำให้สถิติการแจ้งความออนไลน์ลดลงจากเฉลี่ยวันละ 1,200 คดี ลดลงเหลือ 800-900 คดี แม้ว่าการแจ้งความจะลดลงแต่ยังมีประชาชนยังตกเป็นเหยื่อของอาชญากรทางโลกไซเบอร์อยู่ ตำรวจไซเบอร์จะเพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนและปราบปรามการกระทำความผิดบนโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ ไม่จบ ไม่เลิก พร้อมขยายผลเพื่อเชื่อมโยงไปยังระดับผู้ปฏิบัติรายอื่น ๆ จนสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งการทุกคดี เพื่อเร่งนำตัวผู้ต้องหาทั้งขบวนการมาลงโทษตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า ปฏิบัติการแรก ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้จับกุมนางสาวจันทร์จิรา อายุ 22 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฟอกเงิน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจับกุมได้ที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 3 หลังมีผู้เสียหายถูกชักชวนผ่าน เฟซบุ๊กให้ลงทุนสมัครสมาชิก King Power Online จากนั้นดึงเข้ากลุ่มไลน์ โดยชักชวนให้ลงทุนหลอกให้โอนเงินเพื่อซื้อหุ้นของบริษัทเพื่อทำกำไรซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไป 427,088 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก


พ.ต.อ.ทำนุรัฐ กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 2 ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 จับกุมนางสาวกัญญาพร อายุ 29 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยช่วง 10 ก.ย.67-12 ต.ค.67 ผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายใช้ภาพโปรไฟล์ผู้หญิงหน้าตาดีเข้ามาตีสนิทและชักชวนให้ลงทุนซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยส่งลิงก์แพลตฟอร์มการลงทุนปลอม ชื่อ “streaming service” มาให้โอนเงินลงทุน เมื่อลงทุนครั้งแรกได้ผลกำไรดีสามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปลงทุนอีกหลายครั้งโดยโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารบุคคลหลายบัญชีจำนวน 9 ครั้ง เป็นเงิน 1,570,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้อีก เบื้องต้นนางสาวกัญญาพร ให้การรับสารภาพว่ามีเพื่อนมาชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 800 บาท ก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีที่ สภ.เมืองลำพูน 1 คดี และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเพิ่มอีก 1 คดี

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 3 ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จับกุมนายศตวรรษ อายุ 30 ปี ในข้อหาสนับสนุนฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลบึงบอน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี หลังเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ผู้เสียหายได้สมัครงานใช้งานแอปพลิเคชัน BLUED ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหาคู่ ต่อมาได้มีบุคคลปริศนาใช้ภาพโปรไฟล์หน้าตาดีแอดมาเป็นเพื่อน ภายหลังเมื่อเริ่มมีความสนิทสนมกันจึงได้ชักชวนให้ลงทุนโปรโมทสินค้ากับแอปพลิเคชันชื่อ “G marker” สุดท้ายสูญเงินไปทั้งสิ้นจำนวน 613,898.20 บาท เบื้องต้นผู้ต้องหายังไม่ยอมให้การ แต่เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าว มีความเชื่อมโยงไปยังคดีอื่นอีก 22 เคสไอดี รวมความเสียหาย 3,396,973 บาท

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 4 กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 จับกุม นายชวลิต อายุ 30 ปี ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังมีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกให้กดลิงก์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันซึ่งผู้เสียหายคาดว่าน่าจะเป็นโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์ ทำให้เงินถูกโอนออกจากบัญชีกว่า 40,000 บาท
 
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ 5 ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 จับกุมนายกรวิชญ์ อายุ 48 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 12 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก หลังมีผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายติดต่อผ่าน TikTok แล้วชวนพูดคุยเชิงชู้สาว จนผู้เสียหายไว้ใจ จากนั้นถูกชักชวนให้ลงทุนเทรดเงินดิจิทัลช่วงแรกถอนเงินได้ปกติ แต่เมื่อลงทุนมากขึ้นกลับไม่สามารถถอนเงินได้ สุดท้ายสูญเงินไปกว่า 1,100,000 บาท ทั้งนี้พบว่าผู้ต้องหายังมีความเชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงออนไลน์อื่นอีกจำนวน 10 คดี
 
นายกรวิชญ์ เปิดเผยว่า ช่วงประมาณปี พ.ศ.2550 – 2560 เคยทำงานรับจ้างขับรถบรรทุกขนส่งก๊าซ LPG ให้แก่บริษัทหลายแห่งในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.นครราชสีมา โดยได้มอบบัญชีธนาคารให้แก่นายจ้างไว้เพื่อให้โอนเงินค่าจ้างให้ เมื่อได้ลาออกจากบริษัทที่เคยทำงานแล้วเปลี่ยนไปทำงานที่บริษัทใหม่ก็จะเปิดบัญชีธนาคารใหม่เพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ เพื่อมอบให้นายจ้างไว้โอนเงินค่าจ้างเข้าบัญชีธนาคาร  แต่ช่วงหลังจากปี พ.ศ.2560 ได้เลิกทำงานรับจ้างขับรถบรรทุกก็ไม่ได้แจ้งปิดบัญชีธนาคารที่เปิดไว้ให้แก่นายจ้าง จึงเชื่อว่าสาเหตุนี้ อาจทำให้ตัวเองอาจถูกนำบัญชีไปใช้ในการกระทำความผิด


พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 กล่าวว่า ส่วนอีก 3 ปฏิบัติการ ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้จับกุมเครือข่ายหลอกหารายได้ออนไลน์หลอกเหยื่อสำรองเงินก่อนหนีหายไป ได้จับกุมนางสาวสุมินตรา อายุ 21 ปี ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยจับกุมได้ที่ริมถนนหน้าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง คดีนี้เมื่อ 2566 มีผู้เสียหายได้พบเพจประกาศรับสมัครงานเพื่อหารายได้เสริม โดยอ้างว่าเป็นงานประเภทการเพิ่มยอดขายให้ ลาซาด้า ชอปปี้ หรือ วัตสัน โดยใช้กลอุบายให้ผู้เสียหายสำรองจ่ายเงินไปก่อนเพื่อปลดล็อกภารกิจ หากทำครบถ้วนแล้วจึงค่อยสามารถเบิกถอนเงินคืนได้พร้อมค่าคอมมิชชั่น สุดท้ายสูญเงินไปทั้งสิ้นกว่า 1 แสนบาท ทั้งนี้ผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าตนได้ใช้บัญชีธนาคารสมัครเล่นเกมออนไลน์และหารายได้เพิ่ม จึงได้มอบบัญชีธนาคารให้ผู้แนะนำผ่านเกมออนไลน์ เพื่อใช้ในการแบ่งรายได้ ต่อมาไม่สามารถติดต่อบุคคลดังกล่าวได้ จนกระทั่งถูกออกหมายจับและมาถูกจับกุมในที่สุด
 
พ.ต.อ.ธีระ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้จับกุมเครือข่ายอ้างเป็นธนาคารหลอกโอนเงิน 1.8 ล้าน โดยได้จับกุมนายจักรพงษ์ อายุ 29 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบริษัทปิโตรเลียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วง ธันวาคม 2565 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายมียอดค้างชำระค่าบัตรเครดิตและมีคนนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายไปใช้ในทางผิดกฎหมาย และได้หลอกให้ผู้เสียหายติดต่อไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.หัวหิน และข่มขู่ว่าตอนนี้ผู้เสียหายมีความผิดต้องยึดทรัพย์สินและถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน และยังขู่อีกว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งใคร เนื่องจากเป็นความลับทางราชการ จนผู้เสียหายเกิดความกลัวจึงได้โอนเงินทั้งหมดของตนเองไปกว่า 1.8 ล้านบาท

นายจักรพันธ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตัวเองได้ใช้บัญชีธนาคารในการสมัครกู้เงินออนไลน์จากโซเชียลมีเดีย แต่ภายหลังเพิ่งทราบว่าถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้าในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
 
พ.ต.อ.ธีระ กล่าวว่า ปฏิบัติการสุดท้ายได้จับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ โดยจับกุมนางสาวอรวรรณ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในบัญชีม้าในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะ เหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3  ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร หลังเมื่อช่วงต้นปี 2566 ตำรวจไซเบอร์ได้รับร้องเรียนกรณีมีเว็บพนันออนไลน์ชื่อ Clubred666 ได้เปิดรับแทงพนันและมีการเล่นได้เสียเงินกัน ต่อมาตำรวจสามารรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินทั้งกลุ่มบัญชีม้าและผู้รับผลประโยชน์ และมีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งขณะนี้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด แต่ยังมีผู้ต้องหาบางรายที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่ ต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวนางอรวรรณ มาดำเนินคดีได้เบื้องต้น นางอรวรรณ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยอ้างว่าเพื่อนได้ยืมบัญชีธนาคารไปเพื่อประกอบธุรกิจค้าขายออนไลน์ แต่ภายหลังไม่สามารถติดต่อกันได้อีก.- 419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนวัวตัดหน้ารถ

ฝูงวัววิ่งตัดหน้าเก๋ง คนขับเบรกไม่ทัน พุ่งชนตาย 4 ตัว

สาวขับรถจากสุรินทร์มากรุงเทพฯ ระหว่างทางเจอวัวเป็นสิบตัววิ่งข้ามถนน ตัดหน้าระยะกระชั้นชิด เบรกไม่ทัน ชนวัยตายคาที่ 4 ตัว รถพังยับ แต่คนขับและผู้โดยสารปลอดภัย ส่วนเจ้าของวัวยังล่องหน

นายกฯ หย่าศึก! “2 รมต.” โต้เดือดกลาง ครม.ปมส่งออกทุเรียนไปจีน

“พิชัย – นฤมล” โต้เดือดกลาง ครม.ปมส่งออกทุเรียนไปจีน ด้าน “นายกฯ แพทองธาร” รีบหย่าศึกให้ไปตกลงนอกรอบ ก่อนรายงาน ครม.ใหม่

ตำรวจพกโพยเข้าสอบ

ผบ.ตร. สั่งฟัน “พ.ต.อ.” พกโพยเข้าสอบตุลาการศาลปกครองชั้นต้น

ผบ.ตร.สั่งดำเนินการเด็ดขาด รอง ผบก.อก.ภ.8 หลังถูกตรวจพบโพยทุจริตการสอบตุลาการประจำศาลปกครองชั้นต้น ให้ต้นสังกัดตั้งสอบวินัยร้ายแรง ฐานเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

ข่าวแนะนำ

คณะผู้แทนไทยเยี่ยมชาวอุยกูร์ สำรวจความเป็นอยู่หลังส่งกลับจีน

คณะผู้แทนไทย เดินสายเยี่ยมชาวอุยกูร์ สำรวจความเป็นอยู่ หลังส่งกลับจีน “ทวี” มั่นใจเห็นภาษากาย สีหน้า แววตา รัฐบาลนี้ตัดสินใจถูกต้องตามหลักสากล บนพื้นฐาน ถูกกฎหมาย ถูกจริยธรรม ชี้ทำคนตายแล้วเกิดใหม่ ขอเอาความจริงพิสูจน์ หลังประเทศใหญ่กดดันไทย

นักธุรกิจสาวประกาศตามหาทรัพย์สินแบรนด์เนม ดาราสาวยืมไม่คืน

มหากาพย์ดารานางร้ายยืมทรัพย์สินแบรนด์เนมของนักธุรกิจสาว มูลค่ารวม 62 ล้านบาท แล้วไม่คืน นักธุรกิจสาวเผยเป็นบทเรียนราคาแพงจากการไว้ใจคนผิด รู้ซึ้งคำว่าเอ็นดูเขา เอ็นเราขาดกระจุย พร้อมประกาศตามหาทรัพย์สินคืน

ลุยเก็บหลักฐานหาสาเหตุไฟไหม้รถยนต์ของกลาง ด่านศุลกากรแม่สอด

ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ของกลาง ด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก ให้น้ำหนักไปที่ไฟป่า แต่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุพิกัดต้นเพลิง รวมถึงจำนวนรถที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายที่แน่ชัดได้

“ไผ่ ลิกค์” เผย รมต.ที่ถูกพาดพิงปม “ดิว” ไม่ใช่ “ธรรมนัส”

“ไผ่ ลิกค์” เผยคุย “ดิว” แล้ว รัฐมนตรีที่ถูกพาดพิงค้ำประกัน ไม่ใช่ “ร.อ.ธรรมนัส” และคนพรรคกล้าธรรม แต่เป็นรัฐมนตรีที่ยังอยู่ในตำแหน่ง รับดาราสาวเคยมาปรึกษาเรื่องหนี้ แนะเป็นหนี้ก็ต้องใช้