ตร.ขยายผลเพิ่มจับชายจีนซื้อรถให้ขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์

บช.สอท. 15 ม.ค. – ตำรวจไซเบอร์ขยายผลเพิ่มจับชายชาวจีนซื้อรถให้ขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกันใช้อุปกรณ์เครื่องจำลองสถานีฐาน (False base station) ส่ง SMS หลอกลวงประชาชน


กรณีตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการรวบแก๊งชาวจีนตระเวนขับรถทั่วห้างดังกรุงเทพฯ ในย่านรามอินทรา สุขุมวิท และฝั่งธนบุรี พร้อมเครื่องส่ง SMS แนบลิงก์ดูดเงิน โดยเข้าจับกุมนายหลี่ จื๋ว (MR. LI CHUYUAN) อายุ 49 ปี และนายจู เซียนอู่ (MR. ZHU XIANGWU) อายุ 47 ปี สัญชาติจีน ภายในซอยนวลจันทร์ 60 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุม กรุงเทพฯ พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ภายในติดตั้งครื่องส่ง SMS ปลอม (False Base Station) โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็มและซิมโทรศัพท์มือถือ กว่า 30 รายการ โดยจับกุมเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.ประจำ (สบ6) รรท.ผบก.สอท.1 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 รรท ผบก.สอท.3 และตำรวจไซเบอร์ ร่วมกันขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่มีลักษณะส่งข้อความ (SMS) หลอกลวงประชาชนนำอุปกรณ์เครื่องจำลองสถานีฐาน (False base station) จนสามารถจับกุมนายเจิ้ง เส้าตง (Mr.ZENG SHAODONG) อายุ 49 ปี สัญชาติจีน ในข้อหา ร่วมกัน มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการ ประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งย่านถนนสุขเกษม แขวงรัชดา เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2568


คดีนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนได้หาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีเทา หมายเลขทะเบียน ณจ 2273 กรุงเทพมหานครฯ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจำลองสถานีฐาน (False base station) โดยย้อนรอยไปจนถึงผู้ขายรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้สอบถามไปยังผู้ขายรถยนต์คันดังกล่าว ผู้ขายแจ้งว่าผู้ที่มาซื้อรถยนต์คันดังกล่าวเป็นคนจีนมีลักษณะตรงกับนายเจิ้ง เส้าตง (Mr.ZENG SHAODONG) แต่ใช้ชื่อและหนังสือเดินทางชื่อนายเซียด หัวเฉียง (Mr.XIAD HUAQIANG) ในการทำสัญญาซื้อขาย

ตำรวจไซเบอร์จึงรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับนายเจิ้ง เส้าตง และได้สืบสวนจนพบว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 นายเจิ้ง เส้าตง ได้เปิดห้องพักอยู่ที่อพาร์ทเม้นแห่งหนึ่งย่านถนนสุขเกษม แขวงรัชดา เขตดินแดง กรุงเทพฯ จึงลงพื้นที่ดักเฝ้ารอ อยู่บริเวณลานจอดรถของอพาร์ทเม้น จนเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 14 มกราคม 2568 นายเจิ้ง เส้าตง เดินทางกลับเข้าห้องพัก ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า รถยนต์คันดังกล่าวมีการซื้อจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งโดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ซึ่งจะมีการขยายผลไปยังผู้ขายหนังสือเดินทางปลอมด้วยว่ารู้หรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังเต้นท์รถที่จะขายรถยนต์ให้กับชาวต่างประเทศให้ตรวจสอบหนังสือเดินทางว่าเป็นของจริงหรือไม่ และให้สังเกตพฤติกรรมร่วมด้วย ทั้งนี้เมื่อผู้ต้องหาได้รถมาแล้วได้นำมาให้กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยนำไปจอดตามจุดต่างๆ เพื่อส่ง SMS ลิงก์การพนัน ซึ่งจะตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร จึงขอเตือนไปยังประชาชนให้อย่ากดลิงก์ที่แนบมาเพราะเสี่ยงต่อการถูกดูดข้อมูลส่วนตัว หรือดูดเงินจากบัญชีได้


พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมาโดยให้การปฏิเสธในข้อหาที่ตำรวจได้แจ้ง โดยอ้างว่าได้รับเงินก้อนหนึ่งจำนวนเงิน 200,000 บาทจากเพื่อนชาวจีนให้ไปซื้อรถยนต์ส่วนที่อุปกรณ์อยู่หลังรถ ตัวเองได้นำรถยนต์ไปเข้าศูนย์ ทำให้ไม่ทราบว่าอุปกรณ์เครื่อง FBS ที่อยู่หลังรถมาได้อย่างไร จากการตรวจสอบพบว่านายเจิ้ง เส้าตง ได้เข้ามาเมืองไทยตั้งแต่ปี 2558 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว หลังจากนี้จะขยายผลถึงขบวนการนี้ต่อไป.- 419 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย