บช.สอท. 11 มี.ค. – ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มหัวใส ตีมึนโพสต์ขายบัญชีตัวเองเป็นแพกเกจรวมมือถือ พร้อมกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว 2 ปฏิบัติการ ดังนี้ ปฏิบัติการที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบแอปพลิเคชัน Facebook ชื่อ Anonymous Participant ได้ทำการโพสต์ข้อความว่า “ใครไม่มี บช.ใช้ทักมาได้นะครับ มีกสิกร scb ขายพร้อมเครื่อง” และมีคนมาคอมเมนต์สนใจ และผู้โพสต์จึงได้ลงรูป QR Code ของแอปพลิเคชัน LINE จึงได้ให้ตำรวจปลอมตัวเป็นสายลับติดต่อไปเพื่อขอซื้อบัญชีธนาคาร ตกลงในราคาบัญชีละ 3,500 บาท ซึ่งตกลงซื้อขายกันที่ 4 บัญชีธนาคาร จากนั้นได้นัดพบกันที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาญจนบุรี และก็ได้มีการส่งมอบสิ่งของ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายธนกรฯ จำนวน 2 เล่ม และสมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายธนกรฯ จำนวน 1 เล่ม เมื่อทำการซื้อขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม ในความผิดฐาน “ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ปฏิบัติการที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในสื่อออนไลน์ และพบผู้จำหน่ายจำนวน 3 ราย ในพื้นที่ จ.กรุงเทพมหานคร และ จ.นครปฐม จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาล ให้ศาลอนุมัติหมายค้น และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้น 3 จุด จับกลุ่มผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า 1,389 ชิ้น / น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 1,036 ชิ้น / ไอแพด, โน๊ตบุ๊ก, ไอโฟน, โทรศัพท์, กล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในความผิดฐาน “ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บนโรงพักสินค้า ที่มั่งคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานศุลกากร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ยังมีผลการปฏิบัติการจับกุมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดย บก.สอท.1 จับกุมนายภูมิรพี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาโพสต์ขายบัญชีธนาคารไทย/ต่างด้าว/ต่างชาติ ทุกระบบสายขาว ดำ เทา ทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อจนออกหมายจับและจับกุมได้.-420 -สำนักข่าวไทย