สำนักงานป.ป.ช. 12 มี.ค.- “105 สว.” ลงชื่อยื่น ป.ป.ช. เอาผิด ม. 157 “ทวี” – “อธิบดีดีเอสไอ” กลั่นแกล้งเรื่องฮั้ว สว. แขวะความยุติธรรมในประเทศไม่เกิด มีแต่ระส่ำเพราะผู้นำจิตวิญญาณคุมฝ่ายการเมืองได้ เปรียบ อ.ดีเอสไอ เป็นแมว ที่มีคนเลี้ยงคอยกระตุกคอให้จับหนู แต่สุดท้ายอาจต้องตาย เพราะไปจับปลาแต่ว่ายน้ำไม่เป็น
พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นำทีม สว.81 คนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ผ่านนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 สงสัยกลั่นแกล้งสมาชิกวุฒิสภา กรณีรับคดีฮั้วเลือกสว.เป็น คดีพิเศษ ในความผิดฐานฟอกเงิน ทั้งที่ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ โดยมีสว. ลงชื่อทั้งหมด 105 คน
พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ ชี้แจงที่มาที่ไป ถึงการมายื่นครั้งนี้ว่าเป็นผลสืบเนื่อง จากการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่มีมติ ให้รับคดี ฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษ เลยตั้งสมมติฐานว่า มีมูลค่า เกี่ยวกับการฮั้วสว 300 ล้านบาท ซึ่งไม่รู้ว่า คิดขึ้นมาได้อย่างไร และพยายามปล่อยข่าวรายชื่อสว. ข่มขู่ให้ตกใจ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เท่านั้นที่จะมีอำนาจวินิจฉัย ไม่ใช่หน้าที่ดีเอสไอ การกระทำของบอร์ดดีเอสไอ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ใครเป็นเสียงข้างมาก ให้รับเรื่องเป็นคดีพิเศษ เท่ากับทำไม้บรรทัดให้เป็น 13 นิ้ว มีเจตนาพิเศษ ให้สว.ได้รับโทษทางอาญา และทราบว่าขณะนี้ดีเอสไอ ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนคดีนี้แล้ว ซึ่งจะเป็นรายการที่สว.จะดำเนินการต่อไป เพราะหากผู้สอบไม่มีอำนาจ ก็ไม่มีสิทธิ์มาสอบ ผู้ถูกสอบ สามารถไม่ไปพบหรือไม่ไปให้การได้ อยากให้หน่วยงานกลาง อย่างป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ชี้ขาดเรื่องอำนาจในการตรวจสอบของดีเอสไอก่อน เราจึงจะยอมรับพร้อมยืนยันยันที่มาของสว.ชุดนี้มีกระบวนการถูกต้อง ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกย่อมไม่พอใจ และแม้อ้างว่ามีพยานหลักฐานมากมายแต่ พยานหลักฐานเหล่านั้นเพียงพอหรือไม่


พล.ต.ต. ฉัตรวรรษกล่าวอีกว่า การกล่าวหาสว.ของพ.ต.อ.ทวีและดีเอสไอ ทำให้สว.ถูกดูหมิ่น ว่าไม่สุจริต ทั้งที่กกต.รับรองสว.มาตั้งแต่ต้น และกกต.ได้รับคำร้องเรียนเรื่องเลือกสว.เป็นจำนวนมาก อาจมีหลักฐานมากกว่าดีเอสไอ แต่ผู้ร้องอยากเป็นสว.เร็ว อยากขยับขึ้นมาเร็ว ก็ไปกล่าวหากกต.ทำงานช้า ถ้ากกต.ไปสอบผู้สมัครทั่วประเทศ 40,000 คน จะใช้เวลานานเท่าไร ดังนั้นอย่าไปกดดันหรือก้าวก่ายการทำงานของกกต. เรายอมรับการตรวจสอบจากกกต. ที่ผ่านมาสว.หลายคนถูกกกต.เรียกไปสอบ ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของกกต.แต่ดีเอสไอ เมื่อสอบแล้ว พบว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ต้องส่งเรื่องให้กกต.ตรวจสอบ ไม่ใช่เก็บคดีไว้ตรวจสอบเองเพื่ออะไร
“ไม่รู้ว่าใครคุมกระทรวงยุติธรรม แต่ความยุติธรรมในประเทศไม่เกิดขึ้น ความระส่ำระสายเกิดขึ้นทุกองค์กร จากผู้นำจิตวิญญาณบางคน ที่คุมฝ่ายการเมืองได้ ฝ่ายการเมืองที่คุมดีเอสไอถูกครอบงำหรือไม่ ให้ไปคิดดูกันเอาเอง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ” พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าว
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังยกตัวอย่างเปรียบเทียบกรณีนี้ ว่า เหมือนคนเลี้ยงแมวที่มีปลอกคอ คอยกระตุกว่า จะเลือกจับหนู ตัวไหน โดยนอกจากแมวจะจับหนูแล้วยัง กินปลาด้วย แต่วันหนึ่งเจ้าของแมว โยนแมวลงไปในน้ำเพื่อให้จับปลา แต่ลืมไปว่าแมวว่ายน้ำไม่เป็น แมวก็เลยจมน้ำตาย เหมือนอธิบดีดีเอสไอที่ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ ซึ่งสักวันหากคนเลี้ยงแมวไม่อยู่ แมวก็จะตายและติดคุก

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเสนอให้ ยุบดีเอสไอ พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอ ของรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการชุดหนึ่ง ซึ่งมีการนำเข้ามารายงานในที่ประชุมวุฒิสภาโดยจะหยิบยกข้อเสนอดังกล่าวเข้าไปพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาลวุฒิสภา ที่ตนเป็นประธาน
เมื่อถามถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกต ว่าเรื่องของฮั้วสว.มีความพยายามที่จะเปลี่ยนสีสว. สีน้ำเงินให้มาเป็นสว.สีแดง พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เป็นเพียงนักวิเคราะห์ข้างตู้ที่คนอีสานเอาไว้ดูมวย ซึ่งตนไม่ฟัง จะวิเคราะห์ถูกหรือผิดก็ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบ
ส่วนที่สังคมมองว่าเรื่องนี้เป็นการเอาคืนทางการเมือง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่าทำไมไม่มองว่าสว.ถูกกลั่นแกล้งบ้าง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง และสว.มีหน้าที่ในการปกป้องสถาบัน.-319 -สำนักข่าวไทย