พาณิชย์จ่อฟันร้านธงฟ้ายึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

น่าน 6 ต.ค. – รมช.พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดน่านติดตามการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันไม่มีนโยบายเก็บบัตร หากพบร้านค้ายึดบัตร พร้อมยกเลิกเข้าร่วมโครงการทันที


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชนในร้านธงฟ้าประชารัฐวันที่ 6-7 ตุลาคม 2560 ว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจในโครงการของรัฐบาลอย่างมาก แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการให้บริการ เนื่องจากประชาชนเข้ามาใช้บริการพร้อมกัน เนื่องจากเป็นโครงการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพให้กับประชาชน เบื้องต้นพบว่าประชาชนเข้ามาใช้บริการประมาณ  300,000 คนต่อวัน มูลค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 100 ล้านบาทต่อวัน

ส่วนกรณีที่พบปัญหาร้านค้าเข้าร่วมโครงการทำการยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชนที่มีสิทธิ์ 1,500 รายนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า รับทราบและพร้อมติดตามปัญหาดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนร้านที่กระทำผิด ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบ หากพบปัญหาและร้านดังกล่าวกระทำความผิด หรือผิดหลักเกณฑ์ ก็พร้อมที่จะยกเลิกร้านดังกล่าวในการเข้าร่วมโครงการทันที ดังนั้น ต้องการสื่อสารให้ประชาชนและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการรับทราบว่าจะไม่มีการเก็บบัตรสวัสดิการ จะไม่มีการให้เงินสด และประชาชนไม่ต้องรีบเข้ามาใช้บริการสามารถมารับบริการได้ตลอดเวลาเมื่อต้องการซื้อสินค้าที่จำเป็น


อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างเร่งรัดจัดร้านธงฟ้าประชารัฐที่มีเครื่องรูดบัตร EDC ที่พร้อมให้บริการให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศเป้าหมาย 8,000 ร้านค้า เพื่อต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกสะบายในการเข้ามาใช้บริการ จะเน้น 1 ตำบล 1 ร้านค้า โดยยอมรับว่าการให้บริการขณะนี้อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่เชื่อว่าการให้บริการรูดบัตรจะเข้าที่ในอีก 2 เดือนจากนี้

สำหรับพื้นที่ที่ห่างไกลหรือการให้บริการไม่ทั่วถึง กระทรวงพาณิชย์จะจัดร้านธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ หรือ รถโมบายธงฟ้า (Mobile Unit) เข้าไปให้บริการผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรูดซื้อสินค้าจะได้มีความสะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากรถโมบายธงฟ้าจะวิ่งไปให้บริการจำหน่ายสินค้าถึงในหมู่บ้านและประชาชนในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่ขาดเครื่องรูดบัตร โดยจะเห็นชัดเจนกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ทยอยออกให้บริการแต่อาจจะไม่มาก โดยเป้าหมายอยู่ที่ 300 คัน 

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลแจกเป็นเงินสดนั้น ขอชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการสวัสดิการไม่ใช่โครงการแจกเงิน โดยต้องการช่วยเหลือประชาชนและวิธีดังกล่าวมองว่ามีความเหมาะสมที่สุด และจากการสำรวจหากพบว่าปริมาณผู้ใช้บริการมากบางพื้นที่ และเครื่องรูดบัตร EDC ไม่เพียงพอ ก็พร้อมที่จะประสานและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องรูดบัตรเพิ่ม เพื่อความสะดวกกับประชาชน


สำหรับจังหวัดน่านมีผู้มีสิทธิ์ ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 173,838 ราย และร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 386 ร้าน ครอบคลุมพื้นที่ 15 อำเภอ 99 ตำบล ของจังหวัดน่าน และขณะนี้ในพื้นที่ดังกล่าวมีร้านค้าที่ได้รับเครื่องรูดบัตร EDC แล้ว 93 ร้าน ใน 15 อำเภอ 67 ตำบล แต่ยังมีบางพื้นที่ บางตำบลขาดเครื่องรูดบัตร EDC ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะเร่งติดตั้งเครื่อง เพื่อให้ครอบคลุมและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนต่อไป  ส่วนผู้มีสิทธิ์ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคนทั่วประเทศ ล่าสุดมีผู้มารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว 300,000 บัตร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

ครบ 20 ปี เหตุจลาจลคดีตากใบ จำเลยยังล่องหน

วันนี้ครบรอบ 20 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และยังเป็นวันที่คดีหมดอายุความ ในขณะที่การติดตามจับกุมตัวจำเลยยังไร้วี่แวว พาไปย้อนรอยเหตุการณ์และมุมมองของนักวิชาการต่อคดีนี้

รวบ “นัตตี้ ไดอารี่” ยูทูบเบอร์หลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์

ตำรวจร่วมกับดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อ