ตั้งกรอบเวลา 30 วัน สอบข้อเท็จจริงผู้คุมคู่กรณี “อดีต ผกก.โจ้”

ระยอง 10 มี.ค.- รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยการสอบข้อเท็จจริงผู้คุมคู่กรณี “อดีต ผกก.โจ้” ตั้งกรอบเวลา 30 วัน สอบสวนทุกประเด็น ยันในฐานะรุ่นพี่นายร้อยตำรวจ จะไม่ยอมให้ “อดีต ผกก.โจ้” ตายฟรี

พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีที่ก่อนหน้านี้มารดาของอดีตผู้กำกับโจ้ มีการทำหนังสือร้องเรียนมาถึงกรมราชทัณฑ์ ทางกรมราชทัณฑ์ ไม่ได้ปฏิเสธเรื่อง แต่ได้มีการส่งหนังสือกลับไปให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเบื้องต้นมีการตั้งเรื่องไว้เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบโดยมีผู้ตรวจราชการเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ส่วนการส่งหนังสือครั้งที่สองพบว่าเป็นการส่งเรื่องเข้ามาในช่วงเวลารอยต่อการโยกย้ายตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำจึงทำให้การทำงานขาดความต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่ทนายความของผู้เสียชีวิตอ้างว่า ทางกรมราชทัณฑ์ไม่ยินยอมให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบภายใน หลังเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า เดิมทีกรมราชทัณฑ์ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงยุติธรรม ที่ระบุว่า การที่ผู้ต้องขังจะแจ้งความดำเนินคดีใดๆ ก็ตามต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้บัญชาการเรือนจำก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ เพื่อเป็นการควบคุมความวุ่นวายเนื่องจากกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังจำนวนมาก จึงต้องมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไป


ในส่วนของคำสั่งย้ายนายสิทธิพร พ้นจากหน้าที่หัวหน้างานควบคุมแดน 7 เบื้องต้นนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีคำสั่งย้ายจริงโดยให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ฝ่ายธุรการเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นไปอย่างโปร่งใส เบื้องต้นได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมีบุคคลภายนอก จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติเวช และ กรมการปกครอง เข้าร่วมประมาณ 7-8 คน ซึ่งแนวทางการสอบสวนจะพิจารณาในทุกประเด็น ทั้งเรื่องของเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างนายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ กับผู้ต้องขังและผู้คุม รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นจะมีกรอบระยะเวลาในการทำงานประมาณ 30 วัน โดยหากครบ 30 วันแรกก็จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาขยายเวลาเพิ่มหากการตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ ซึ่งกรณีของนายสุทธิพรที่มีคำสั่งย้ายเบื้องต้นไม่พบเคยถูกร้องเรียนมาก่อน ส่วนประเด็นของอดีตผู้กำกับโจ้นั้นพบว่ามีปัญหากับผู้ต้องขังอีกคนหนึ่ง สำหรับนายสิทธิพรจะมีผู้บริหารกรมราชทัณฑ์หนุนหลังหรือให้ความสนับสนุนหรือไม่ ตัวเองยืนยันไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน แต่ประเด็นนี้ก็จะอยู่ในการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในวันเกิดเหตุก็ได้มีการเรียกเจ้าตัวมาสอบถาม ก็พบว่าไม่ได้มีพฤติกรรมดุดัน และยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางส่วนตัวกับ อดีตผู้กำกับโจ้ แต่ยอมรับว่า มีการกวดขันกับอดีตผู้กำกับโจ้เป็นพิเศษเนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมทะเลาะกับผู้ต้องขังคนอื่น

สำหรับอดีตผู้กำกับโจ้ที่ปรากฏข้อมูลว่ามีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องนั้น เชื่อว่าน่าจะมาจากความเคยชินที่ในอดีตรับราชการตำรวจเมื่อต้องมาอาศัยรวมอยู่กับกลุ่มผู้ต้องขังที่กระทำความผิด จึงอาจมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน จนนำไปสู่เหตุกระทบกระทั่งกันดังกล่าว และจากกรณีที่ปรากฏข้อมูลว่าพบยาเส้นรวมถึงสื่อลามกอนาจารที่เป็นต้นเหตุนำไปสู่การทะเลาะวิวาท ที่ผ่านมายอมรับว่าในการลงตรวจเรือนจำก็หลายแห่ง ก็เคยตรวจเจอบ้างแต่หากตรวจพบ ผู้ครอบครองก็จะต้องมีความผิดทางอาญา ส่วนผู้คุมก็จะมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งกรณีนี้ก็จะมีการนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน


พันตำรวจโท เชน ยังเปิดเผยว่า ตัวเองรู้สึกเห็นใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพราะเท่าที่เคยพูดคุยพบว่าทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ครั้งจะพบว่าครอบครัวได้เข้าเยี่ยมผู้เสียชีวิตมาตลอดกว่า 3 ปี ซึ่งตัวเอง นับเป็นรุ่นพี่โรงเรียนนายร้อยตำรวจของอดีตผู้กำกับโจ้ ก่อนจะโอนมาอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าจะไม่ให้อดีตผู้กำกับโจ้เสียชีวิตฟรีอย่างแน่นอน และจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีการตั้งขึ้น

สำหรับความแตกต่างระหว่างการขังเดี่ยวของเรือนจำคลองเปรมหรือเรือนจำอื่น ๆ กับ แดนซุปเปอร์แม็ก ซึ่งทั้งประเทศไทยมี 5 แห่ง จะมีความเข้มงวดกว่าเนื่องจากผู้ต้องขังที่เข้ามาอยู่ในแดนดังกล่าวจะต้องมีอัตราความผิดสูง และทำผิดระเบียบขณะคุมขัง ที่รับย้ายมาจากเรือนจำทั่วประเทศ ขณะที่การขังเดี่ยวในเรือนจำอื่น ๆ จะมีความเข้มงวดกว่าการขังรวม แต่หากเบื้องต้นขังเดี่ยวแล้วยังมีพฤติการณ์เช่นเดิมไม่สำนึกผิด จึงจะถูกส่งต่อมายังซูเปอร์แม็กซ์ การขังเดี่ยวนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ต้องขังที่เป็นจิตเวช แต่อาจจะมีความเครียด เช่นเดียวกับผู้ต้องหาทำผิดวินัยซ้ำ ซึ่งมีกฎหมาย และมาตรฐานสากลในการดูแลอยู่แล้ว เชื่อว่าการขังเดี่ยวไม่ว่าจะเป็นเรือนจำใดก็อาจทำให้ผู้ถูกคุมขังมีความเครียดเพิ่มมากขึ้นได้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการทำร้ายตัวเอง ซึ่งจะต้องมีการประเมินสุขภาพจิตจากจิตแพทย์ก่อนที่จะมีการจ่ายยาใด ๆ โดยผู้คุมจะต้องเป็นผู้จ่ายยาด้วยตนเอง ตามเวลาที่จิตแพทย์กำหนด.-720.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน