กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – ลูกบ้านคอนโดร้องเป็นหนึ่ง ช่วยเด็ก 6 ขวบ หลังแม่หลอนยาชอบโวยกลางดึก ป่วนแอบวางของหน้าห้อง ติดโน้ตเรื่องฆาตกรรมเด็ก
นางชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน ลงพื้นที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการ เขตสวนหลวง หลังได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดว่า มีผู้เช่าที่มีพฤติกรรมชอบพูดคนเดียว โวยวายกลางดึก แอบวางของหน้าห้อง ติดโน๊ตเขียนเรื่องฆาตกรรม-ขืนใจ และยังเคยทำร้ายร่างกายลูกสาววัย 6 ขวบ ลูกบ้านเคยแจ้งนิติบุคคล และตำรวจ รวมถึงมูลนิธิต่างๆ แต่สุดท้ายก็เงียบหาย ตอนนี้ทุกคนในคอนโดเป็นห่วงเด็กหญิงกลัวไม่ได้รับความปลอดภัย
โดยต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ลงพื้นที่คอนโดดังกล่าว พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล จึงได้ติดต่อประสานกับทางญาติของเจ้าของห้องดังกล่าวเพื่อให้มาเปิดประตู หลังจากที่ญาติมาถึงทีมงานต้นอ้อ พร้อมพัฒนาสังคม ได้ไปเคาะประตูห้อง แต่เจ้าของห้องไม่เปิด ทำให้ทางญาติและเจ้าหน้าที่ต้องรอและเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าที่เจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าของห้องพักอาศัยอยู่กับลูกสาวอายุเพียง 6 ขวบ ลักษณะภายในห้องเต็มไปด้วยถุงขยะและเสื้อผ้า มีน้ำเจิ่งและมีกลิ่นเหม็น ไม่เปิดแอร์ ปิดผ้าม่านมิดชิดอยู่กันอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพัง หลังจากที่ทีมงานต้นอ้อเป็นหนึ่งพร้อมพัฒนาสังคมพาตัวลูกสาวลงมา แล้วแยกตัวเด็กไปที่ห้องเพื่อให้พัฒนาสังคมดูแล ทางเจ้าของห้อง หรือแม่ของเด็กก็ยังรู้สึกวิตกกังวลว่าจะมีใครไปทำร้ายน้อง
ต่อมานาง เอ (นามสมมุติ) เจ้าของห้อง หรือผู้เป็นแม่ ได้เล่าเหตุการณ์ด้วยลักษณะคำพูดที่วกวน ว่าสาเหตุที่ตนนำโน้ตข้อความเรื่องของฆาตกรรมและการข่มขืนเด็กไปสอดไว้ตามห้องต่างๆ เนื่องจากตนเองกลัวว่าจะมีคนร้ายลูกเพราะตนเองจะเห็นภาพ รปภ. ทำร้ายร่างกายเด็กคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกของตนอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้ตนเองกลัวว่าลูกจะไม่ได้รับความปลอดภัย ในส่วนที่แม่ไม่ให้น้องไปโรงเรียนเนื่องจากว่ากลัว รปภ. ที่โรงเรียนจะมาจับลูกไปทำไม่ดี เพราะเคยเจอเหตุการณ์หนึ่งที่ตนพาลูกไปโรงเรียนแล้ว รปภ. เข้ามาจับตัวลูกเข้าไปในห้อง ทำให้ตนไม่กล้าพาลูกไปโรงเรียนอีกเลย รวมถึงโรงเรียนก็อยู่ไกล ซึ่งตนเองก็ไปส่งไม่ไหว ในส่วนที่ตนเองตีลูก ตนเองยอมรับว่ามีตีบ้างเนื่องจากลูกดื้อแต่ก็ไม่ได้มีการใช้ไม้ตีแต่อย่างใดแต่เป็นเพียงการใช้มือตีเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ตนเองดีใจที่ญาติพี่น้องมารับลูกไปดูแล
นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าปกติแล้วตนเอง จะประกอบอาชีพขับไรเดอร์ หรือวินมอเตอร์ไซค์เพื่อหาเลี้ยงดูแลลูกซึ่งได้รายได้วันละ 300 บาท ทุกครั้งที่ตนเองออกไปทำงานก็จะปล่อยให้ลูกอยู่เพียงลำพัง หรือจะหาจังหวะที่ลูกนอนหลับ แล้วตนค่อยออกไปทำงานแต่ทุกครั้งที่ลูกตื่นมาก็จะส่งเสียงร้องไห้ เป็นประจำ ช่วง 3 เดือน ให้หลังตนเองจึงไม่ได้ไปขับ
ด้านพี่สาวผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลว่า น้องสาวผู้เป็นแม่ เสพสารเสพติดมาตั้งแต่อายุ 15 ปี จนมีอาการหลอน ถือว่าผู้ป่วยจิตเวช ก่อนหน้านี้เคยพาไปรักษา พออาการดีขึ้นจึงให้กลับมาอยู่ที่คอนโด และไม่คิดว่าน้องสาวจะมีอาการหนักขนาดนี้ ซึ่งทางพี่สาวได้บอกกับตนว่า จะเป็นคนนำหลานสาวอายุ 6 ขวบ ไปเลี้ยงดูและส่งให้เรียนหนังสือ ในส่วนของน้องสาวผู้เป็นแม่ จะดำเนินการส่งไปรักษาตัว ที่โรงพยาบาลต่อไป-419-สำนักข่าวไทย