“รังสิมันต์” ฉะปล่อยระบบไบโอเมทริกซ์ เต็ม-ขาดอายุ

รัฐสภา 20 ก.พ.- “รังสิมันต์“ ฉะ ผบ.ตร.-สตม. ปล่อย ระบบไบโอเมทริกซ์เต็ม-ขาดอายุ ทำเสียโอกาสเก็บข้อมูลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่มั่นใจ ระบบตรวจจับ ชี้ ปฏิบัติไม่เท่าเทียมหลังปล่อยจีนกลับประเทศ โดยไม่แยกเหยื่อและอาชญากร


นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวภายหลังการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกรณีการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ที่จะส่งจากฝั่งเมียวดีผ่านด่านชายแดนอำเภอแม่ที่จะส่งจากฝั่งเมียวดี ผ่านด่านชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยระบุว่าวันนี้ที่ทางกรรมาธิการมีข้อมูล เรื่องระบบไบโอแมทริกซ์ที่ใช้ในการเก็บอัตลักษณ์บุคคล ใช้ไม่ได้มาตลอดปี 2567 และรวมถึงสองปีข้างหน้า ที่จะไม่มีการใช้ระบบไบโอมาอีกแล้ว จึงจะเป็นช่วงเวลา 3 ปีเต็ม ที่ไทยไม่มีเครื่องไบโอเมทริกซ์ ในการเก็บข้อมูล ทั้งที่สนามบินและชายแดน ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่จะมีความผิดพลาดที่จะมีนักท่องเที่ยวเทาทั้งหลายจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการมาก่ออาชญากรรม ซึ่งเชื่อว่าจะประสบปัญหาแน่นอน แม้ว่าทางสำนักงาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะมีวิธีการถ่ายภาพใบหน้าและพิมพ์ลายนิ้วมือ ข้อมูลนี้ไม่เพียงพอ จึงจะกลายเป็นช่องว่างสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้ความอันตรายของคณะอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน โดยที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้มีความรับผิดชอบในการป้องกันเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นเนิ่น ทั้งที่ความจริงต้องรับทราบล่วงหน้าว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น แต่ยังปล่อยให้มีช่องว่างสูญญากาศใช้วิธีการแบบโบราณ ไม่สามารถเก็บไบโอเมทริกซ์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงต้องไปใช้วิธีการแบล็กลิสต์

จึงขอคำถามไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ว่าปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร จึงถามเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย และหากปรากฏว่ามีการก่ออาชญากรรมเกิดขึ้น เพราะระบบไม่สามารถป้องกันได้จะรับผิดชอบอย่างไร อีกทั้งยังทราบมาว่าที่ผ่านมาผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเป็นผู้ไม่อนุมัติให้มีการซื้อไลเซนส์เพิ่ม


นอกจากนี้ ยืนยันว่าทางกรรมาธิการที่มีการสอบถามถึงการส่งคนต่างชาติ ซึ่งได้ข้อมูลว่า สภาความมั่นคงมีการแบ่งเป็นออกเป็นสองส่วนระหว่างคนสัญชาติจีนที่มีการบันทึกภาพและลายนิ้วมือ และส่งไปทางจีนเลย ไม่ได้มีการนำไม่ได้มีการนำเข้ากระบวนการในการคัดแยกเหยื่อและอาชญากร แต่ชาติอื่นที่ไม่ใช่จีน จึงจะมีการบันทึกข้อมูลและคัดแยก ซึ่งมองว่าไม่ใช่การทำตามหลักสากลและไม่ยึดผลประโยชน์ของประเทศ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องข้อมูลละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทยเรื่องนี้มีมูล ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่ประเทศไทยจะมีการร่วมมือกับจีนในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้ว ต้องนำเข้าสู่ระบบของประเทศไทย แต่ตอนนี้ไม่มี แต่ระบบที่มีอยู่ขณะนี้ ทำให้กลุ่มคนจีนเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชน สามารถกลับไปที่ประเทศได้เลย ในขณะที่คนอื่นที่ไม่ใช่คนจีนต้องเข้าสู่กระบวนการ จึงเกิดการท้วงติงว่าทำไมถึงปฏิบัติไม่เท่ากัน รัฐบาลไทยไม่ควรตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม นายรังสิมันต์ เชื่อว่าจะมีการขึ้นแบล็กลิสต์ แต่ไม่มั่นใจในระบบ เพราะหากกลับมา โดยการถือพาสปอร์ตใหม่ ระบบแบล็กลิสต์ อาจจะตรวจจับไม่พบ.-315 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​