รัฐสภา 20 ก.พ.-“รังสิมันต์” จี้ อสส. อย่านิ่งออกหมายจับ “หม่องชิตตู่” หวั่น ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน แฉต่อพบแหล่งยาเสพติดใหม่ที่รัฐกะเหรี่ยง จี้ขยายผลต่อ ขณะ สมช. เตรียมเคาะ มี.ค.นี้ ปิดท่าข้ามไหนบ้าง
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ ว่าในที่ประชุมมีการพูดคุยถึงความคืบหน้าการออกหมายจับ หม่องชิตตู ทำไมถึงออกด้วยความยากลำบาก ซึ่งเราพบตัวการหลัก ที่ทำให้ไม่สามารถออกได้คืออัยการ โดยคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทำให้อัยการสูงสุดเข้ามามีบทบาท เท่าที่ทราบตอนนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ แต่ไม่ทราบว่าทางอัยการรอช้าอยู่ไปเพื่ออะไร ซึ่งความช้าหากนำไปสู่การยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ของบรรดาอาชญากรเหล่านี้ มันทำให้เราไม่สามารถที่จะฟรีซทรัพย์สินเหล่านี้ไว้ได้ เพราะอย่าลืมว่าคดีเหล่านี้ มันมีผู้เสียหายที่เขารอคอยการชดเชยอยู่ รอการได้เงินคืนอยู่ ถ้าเราไม่สามารถจับและฟรีซทรัพย์สินเหล่านี้ได้ คนเหล่านี้ก็จะไม่มีทางได้เงินคืน
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้ยังไม่มีการขยายผลไปถึง เต่ง วิน กองกำลัง BGF ได้ เพราะเต่ง วิน เกี่ยวข้องกับบริษัท SMTY คู่สัญญาของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และเต่ง วิน ยังเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ซึ่งยังไม่มีใครขยายผล แต่วันนี้เริ่มปรากฏหลักฐานมีตัวละครใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ต้องมีการสืบสวนและสอบสวนต่อไป ซึ่งก็คือกองกำลังที่มีอิทธิพลอยู่บริเวณบริเวณพญาตองซู จึงต้องมีการขยายผลกันต่อไป เพราะบุคคลที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
“แหล่งผลิตยาเสพติดแหล่งใหม่แหล่งใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว และแหล่งนั้นตั้งอยู่ที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ไม่ได้จำกัดอยู่ว้าเท่านั้น” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงเรื่องท่าข้าม ว่าตอนนี้มีข้อมูลว่าท่าข้ามบางท่าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันว่ามีจริงและอยู่ระหว่างและตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และเดี๋ยว สมช. จะสรุป เพื่อนำไปสู่การปิดท่าข้าม โดยข้อมูลน่าจะออกมาในช่วงเดือนมีนาคม ว่าจะปิดท่าข้ามไหนบ้าง.-315 -สำนักข่าวไทย