กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – MGI คว้าลิขสิทธิ์ประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จาก JKN สัญญา 5 ปี 180 ล้านบาท “ณวัฒน์” ชี้สปอนเซอร์เข้าแล้ว 115 ล้านบาท มั่นใจคุ้มทุนปีแรก ยันไม่ขายหุ้น MGI “แอน-จักรพงษ์” เตรียมนำเงินหนุนแผนฟื้นฟู นักลงทุนจับตา
บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI และ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลัง MGI เข้าลงทุนโดยการซื้อลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 180 ล้านบาท จาก JKN โดย MGI ได้เข้าซื้อลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) สำหรับปี 2568-2572 รวมทั้งสิ้น 5 ปี จาก JKN Global Content Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โดยบริษัทจะต้องชำระค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 180 ล้านบาท
นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI กล่าวว่า การคุยลิขสิทธิ์นั้นมีการคุยมาเป็นปีแล้ว ตนเองรอเวลานี้มา 14 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนกับนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ก็เจรจากันมาก่อนแล้ว โดยใช้เวลาปิดดีลไม่เกิน 1 ปี ภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของเพื่อนงอนกัน ส่วนเงิน 180 ล้านบาท ที่จ่ายลิขสิทธิ์ ขณะนี้ก็มีสปอนเซอร์เข้าแล้ว 115 ล้านบาท จึงเชื่อว่าจะคุ้มทุนในปีนี้แน่นอน ซึ่งตัวเลขทุกอย่างต้องมีการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากว่าบริหารงานแบบบริษัทมหาชนที่มีการจดทะเบียน
ส่วนประเด็นที่ว่า การบริหารจัดการเวทีนางงามทั้ง 2 แห่งนั้น เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา เนื่องจากทั้ง 2 เวที มีการบริหารงานที่แตกต่างกัน
สำหรับการที่ซื้อลิขสิทธ์เป็นเวลา 5 ปี ตนมองถึงความคุ้มค่า โดยเวที MUT สามารถนำแบรนดิ้งมาต่อยอดได้ทัน โดยอยู่บนพื้นฐานที่ต้องเติบโตและตอบโจทย์ จึงขอให้นักลงทุนของ MGI มั่นใจได้ โดยหุ้นจะมีการปันผลปี 2567 ในอัตรา 40% ของกำไร โดยจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 ก.พ.นี้
ส่วนกรณี บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ที่ตนเองถือหุ้นอยู่และมีการปรับตัวลง ยืนยันจะไม่มีการเทขายหุ้นแน่นอน รวมถึงหุ้น MGI ทั้งหมด ก็ไม่มีการขายแม้แต่หุ้นเดียว
ด้านนายจักรพงษ์ กล่าวว่า เงินที่ได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ 180 ล้านบาท จะเอาไปช่วยเหลือเด็ก และนำไปใช้ดำเนินการเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทซึ่งขณะนี้มีการจัดทำแผนเสร็จสิ้นแล้ว 100% พร้อมชื่นชม นายณวัฒน์ ที่มีทีมงานที่ดี โดยเชื่อว่าเวที MUT ในครั้งนี้ จะได้เห็นมิติใหม่ที่ทั้งสนุกและมีคุณภาพ และจะทำให้นักลงทุนพอใจ สามารถเชิดหน้าชูตาให้ประเทศไทยไปสู่ระดับจักรวาลได้.-516-สำนักข่าวไทย
