13 ก.พ. – “ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้
นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงตามหนังสือเชิญบุคคลเข้าให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
นายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เกี่ยวกับการที่ตนได้เจอร่างน้องแตงโมในวันแรก เพื่อให้ข้อมูลเรื่องสรีระน้องแตงโมว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรตรงไหนหรือไม่ที่มันผิดไปจากอุบัติเหตุ หรือว่าการใด เพราะตนเป็นคนแรกที่เอาร่างน้องแตงโมมาพลิก ในส่วนของสรีระทั้งหมดว่าตรงไหนมีอะไรผิดปกติบ้าง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูปไว้เป็นพยานหลักฐานต่าง ๆ
หากตกเรือแล้วเจอใบพัดเรือ ตกไปในน้ำแล้วเสียชีวิต จะเป็นใบพัดเรือตรงไหน ซึ่งตนได้เปิดทุกอย่างในร่างกายของน้องแตงโม ก็ได้เจอบาดแผล ซึ่งตนจำได้ว่าร่างน้องแตงโมมีอะไรบ้างที่ติดหรือโดนของแข็ง หรือของมีคม หรือตรงไหนมีรอยขีดข่วน ตนจำได้ เพราะตนได้นั่งอยู่กับร่างน้องประมาณ 1 ชม. จากที่เกิดเหตุไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ส่วนบาดแผลที่มีข้อสงสัย อาจไม่ได้โดนใบพัดเรือ คือ ช่วงโคนขาขวา เพราะมันรอยยาวและลึกมากจนเห็นเนื้อยุ่ย ซึ่งตรงนี้น่าจะทำให้เสียชีวิต เพราะพอตกลงน้ำก็ว่ายน้ำไม่ไหวเพราะบาดแผลนี้ได้ แต่ตนก็มาฉุกใจคิดว่ามันไม่น่าใช่ใบพัดเรือ เพราะเท่าที่ตนสัมผัสงานกู้ภัยมาเยอะ การโดนใบพัดเรือ แผลจะไม่ใช่ลักษณะแบบนี้
นายเอกพันธ์ บอกด้วยว่า วันนี้ตนจะตอบดีเอสไอเท่าที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสอบถาม ส่วนเรื่องใบไม้ที่ติดเส้นผม และเรื่องเรือลำแรกที่เจอน้องแตงโม คือ เป็นของใครตนไม่ทราบ แต่ในวันนั้นตนได้ขับวนตรงเวิ้งน้ำนั้นประมาณ 1 ชม. แล้วก็ได้ไปที่วัดแดงธรรมชาติ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี เพราะมีคนบอกว่าให้ไปขอพรที่นั่นเพราะศักดิ์สิทธิ์มาก ก็เลยขับเรือไปถึง 5 นาที จุดธูปขอให้เจอร่างน้องแตงโม พอขอพรเสร็จก็ขับเรือออกมาไม่ถึง 3 นาที ก็เห็นเรือเสี่ยคนนั้นลอยแม่น้ำมาแล้วหยุดตรงกลางแม่น้ำ จนได้ยินเสียงคนโวยวายว่าเจอแล้ว
ตอนนั้นขึ้นเรือกับเรืออาสา จนไปถึงร่างน้องที่ลอยคว่ำหน้าในน้ำ และมีเพียงผ้าดิบที่อาสาสมัครเตรียมไว้จะผูกร่างน้องเพื่อขึ้นฝั่ง แต่ตนมองว่าน้องแตงโมจะโป๊ได้ เพราะน้องใส่แค่บอดี้สูท จึงขอผ้าดิบ 2 ผืน เพื่อพาน้องขึ้นฝั่งแทน จะลากไว้ข้างเรือไม่ได้ เลยเอาขึ้นเบาะและใช้ผ้าดิบคลุมร่างไว้
ต้องยอมรับว่าเราขับวนหากันหลายวัน มีทั้งเรืออาสาสมัคร เรือมูลนิธิกว่า 50 ลำ ค้นกันนานก็ไม่เจอ แต่เรือลำใหญ่มาไม่นาน วน 2-3 รอบ เขากลับเจอ ซึ่งพอเรือลำใหญ่เจอ เรืออื่นทุกลำก็มุ่งหน้าไปที่ตรงเรือลำใหญ่กันว่าเจอร่างหรืออะไร อย่างไร พอไปถึงจึงเห็นว่าเป็นร่างน้องแตงโม รวมทั้งยืนยันว่าตนเห็นมีฟันซี่บนหักแน่นอน ไม่น่าใช่คราบดินโคลน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่ นายเอกพันธ์ ให้สัมภาษณ์สื่อเสร็จสิ้น ก็ได้เดินเข้าห้องคณะพนักงานสืบสวนเพื่อเตรียมให้ข้อมูลกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน โดยทาง พ.ต.ต.ณฐพล ระบุกับสื่อว่า อาจใช้เวลาในการสอบถามข้อมูลจากนายเอกพันธ์เพียงไม่นาน
ส่วนที่ศาลจังหวัดนนทบุรี มีการนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย คดีการเสียชีวิตของแตงโม ครั้งสุดท้าย คือนายภีม ธรรมธีระศรี หรือ กุนซือเอ็ม ซึ่งมีนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม พร้อมด้วยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เดินทางมาร่วมสืบพยานด้วย
ก่อนขึ้นศาล แม่ของแตงโม กล่าวว่า เดินทางไปที่ดีเอสไอ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับ “บังแจ๊ค” โดยสิ้นเชิง แต่เวลามันประจวบเหมาะที่คุณหมอธวัชชัยไปรับโทรศัพท์จากบังแจ๊คพอดี ซึ่งที่ตัวเองตัดสินเข้าพบดีเอสไอ เพราะเชื่อมั่นกระบวนการการทำงานของดีเอสไอ ส่วนรายละเอียดการให้ข้อมูลนั้น เหมือนเดิมทุกอย่าง โดยสิ่งที่ตนคาดหวัง คือ แตงโมจะต้องได้รับความยุติธรรม และต้องไม่ตายฟรี
ด้านทนายเดชา กล่าวว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีมีการสืบพยานฝ่ายจำเลยครั้งสุดท้าย คือ นายภีม หรือ เอ็ม โดยเป็นโจทย์ฟ้อง 4 คนบนเรือ ประกอบด้วย แซน วิศาพัช, จ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร, กระติก อิจศรินทร์, ภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี โดยศาลจะตัดสินอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งหลังจากสืบพยานฝ่ายจำเลยเสร็จ ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 23 พฤษภาคม 68 เวลา 09.30 น. ต้องรอดูว่าศาลจะพิพากษาว่าจะเป็นการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือจะยกฟ้อง หากยกฟ้องก็จะอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน .-สำนักข่าวไทย