กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – เลขาธิการ คปภ. เผยปี 68 ธุรกิจประกันภัยและวินาศภัย มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น โดยการเติบโตของธุรกิจประกันภัยเป็นไปตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ย้ำ คปภ. มีหน้าที่กำกับดูแลธุรกิจประกันภัย แต่เป็นการกำกับแบบให้มีโอกาสเติบโต พร้อมดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันด้วย
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ในปี 2568 การเติบโตของธุรกิจประกันภัยและวินาศภัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัยจะอยู่ที่ 9.7-9.8 แสนล้านบาท และอาจมีโอกาสแตะ 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยเป็นไปตามอัตราเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน
คปภ. ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของบริษัทประกันภัย โดย คปภ. มีการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยผ่านระบบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System : EWS) ซึ่งเป็นการกำกับดูแลและวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของบริษัทในเชิงลึก หากเห็นจุดบกพร่องจะสามารถให้คำแนะนำแก้ไขได้ รวมไปหากเห็นจุดแข็งของบริษัทก็สามารถให้คำแนะนำการลงทุนหรือกรมธรรม์ที่มีความหลากหลายและรวดเร็วยิ่งขึ้นได้
สำหรับธุรกิจประกันสุขภาพจะยังมีสัดส่วนที่โดดเด่นที่สุด ขณะที่ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ก็มีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงประกันยานยนต์ไฟฟ้าที่ขณะนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ประกันชีวิตควบการลงทุนก็เริ่มเติบโตขึ้น
เลขาธิการ คปภ. ย้ำว่า คปภ. ยังมีหน้าที่คุ้มครองและส่งเสริมสิทธิประโยชน์ให้กับประชาชนด้วย โดยพยายามส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยมีช่องทางในการลงทุนมากยิ่งขึ้น การปรับขออนุมัติกรมธรรม์ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายกรมธรรม์ทั้งผ่านนายหน้าและออนไลน์ก็เริ่มมีการปรับตัวดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่องทางนายหน้ามีการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในการขายมากยิ่งขึ้น.-512-สำนักข่าวไทย