ปชน. ชูจุดเด่นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แนวทางปฏิบัติชัดเจน

รัฐสภา 24 ม.ค.-“สส.ปชน.” ชูจุดเด่นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด จัดตั้งกองทุน โดยมีรายได้จากค่าปรับผู้ก่อมลพิษ มีแนวทางปฏิบัติชัดแก้ปัญหาฝุ่นข้ามแดน พร้อมบทลงโทษที่ชัดเจน


นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายอากาศสะอาด ในฐานะหนึ่งในเจ้าของร่างกฎหมายที่เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งจนถึงปัจจุบันพิจารณามาแล้ว 1 ปี กล่าวว่า สาเหตุที่ใช้ระยะเวลาพิจารณาศึกษานานโดยมีการยกร่างขึ้นฉบับใหม่ จากการหยิบยกเนื้อหามาจาก 7 ร่างที่สภาผู้แทนราษฎรรับหลักการ เพื่อให้ร่างกฎหมายมีประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการปัญหาฝุ่น โดยหยิบยกจุดเด่นร่างกฎหมายที่มีการกำหนดเกี่ยวกับกองทุนอากาศสะอาด ที่กำหนดให้ผู้ที่ก่อมลพิษจะต้องจ่ายค่าปรับและค่าธรรมเนียมที่จะเข้าสู่กองทุน และนำไปแก้ไขปัญหาอากาศสะอาด ในกรณีที่งบรายจ่ายประจำหรืองบกลางไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันท่วงที

นายภัทรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาฝุ่นข้ามแดนนั้นแม้ปัจจุบันจะมีกฎหมายห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่กฎหมายฉบับนี้จะเป็นคู่มือการทำงานให้รัฐบาลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในการจัดการสินค้าที่ก่อให้เกิดมลพิษจากประเทศอื่น ซึ่งผู้ประกอบการเป็นคนไทยและนำเข้ามา นอกจากนี้เรื่องบทลงโทษจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งกฎหมายฉบับนี้มีการกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง มีอำนาจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เกี่ยวกับกองทุนมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ นอกจากจะมีบทลงโทษที่ชัดเจนแล้ว ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการสนับสนุนจากกองทุน


“ปัจจุบันบทลงโทษอาจยังไม่ชัดเจนมากนัก ในกฎหมายอื่น เพราะฉะนั้นบทลงโทษในร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด จะชัดเจนยิ่งขึ้นแน่นอน หลังจากที่จัดร่างพ.ร.บ.ฯ ทำเสร็จสิ้น” นายภัทรพงษ์กล่าว

นายภัทรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในการจัดทำร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดส่วนใหญ่ กมธ.ฯ เห็นไปในทิศทางเดียวกัน หากมีประเด็นใดที่เห็นต่างจะมีอนุกมธ.ฯ เชิญหน่วยงานมาศึกษาข้อเท็จจริง เพื่อนำความเห็นมาเสนอต่อที่ประชุมชุดใหญ่ หลังจากนี้หากมีประเด็นที่เห็นต่างก็จะมีการลงมติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนเนื้อหาสาระตั้งแต่มาตราที่ 1-100 ทั้งนี้ในส่วนของคณะกรรมการตามร่างพ.ร.บ.ฯ ว่ามีตั้งแต่คณะกรรมการระดับชาติ คณะกรรมการกำกับ คณะกรรมการจังหวัดจะดูแลปัญหาภายในจังหวัดรวมไปถึงท้องถิ่น กลไกการสั่งงานจะเริ่มตั้งแต่คณะกรรมการส่วนบนลงล่าง

นายภัทรพงษ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาปัญหาฝุ่นพิษพีเอ็ม 2.5 ของรัฐบาลในปัจจุบันสามารถหยิบยกกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมาดำเนินการแก้ไขได้โดยไม่จำเป็นต้องรอร่างกฎหมายที่กำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ และขอให้ประชาชนเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจากค่าฝุ่นที่สูงขึ้นในขณะนี้ดวย


ขณะที่นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะกมธ.ฯ กล่าวว่า ในการประชุมกมธ.ฯ วันนี้ (24 ม.ค.) จะมีการลงมติเรื่อง คณะกรรมการจังหวัด ว่าจะกำหนดให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัก (นายก อบจ.) ที่ประชาชนเลือกตั้งมาเป็นประธาน.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล