ชัยนาท 24 ม.ค. – ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท
ตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 1 และตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ขับรถไล่ล่ารถกระบะ 2 คัน ขนแรงงานต่างด้าว พยายามขับหลบหนี โดยขับไล่ล่ากันมาตั้งแต่แยกหลวงพ่อโอ จ.นครสวรรค์ ก่อนรถตำรวจจะขับปาดหน้า ทำให้รถกระบะขนแรงงานชนท้ายรถตำรวจ กระทั่งจนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท
ตรวจสอบรถกระบะทั้ง 2 คัน พบแรงงานต่างด้าวนั่งอยู่ด้านหน้ารถและตัวกระบะ เป็นผู้ใหญ่ 32 คน เด็ก 4 คน จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท
พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงสิงห์บุรี เปิดเผยว่า วันนี้ (24 ม.ค.) เวลาประมาณ 04.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสำรวจเส้นทาง พบกลุ่มรถกระบะ 3 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า ขับมาบนถนนเอเชีย บริเวณแยกหลวงพ่อโอ จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งสัญญาณเรียกให้หยุด แต่ทั้งหมดไม่หยุด กลับขับรถหนีเข้าถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชัยนาท ตำรวจจึงขับรถติดตาม กระทั่งถึงถนนสายชัยนาท-วัดสิงห์ บริเวณ กม.15 หมู่ 4 ต.หาดท่าเสา อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้รถเข้าขวาง และถูกชนท้าย สามารถจับกุมรถกระบะได้ 2 คัน
คันแรกมีนายสุริยา อายุ 41 ปี เป็นคนขับ สารภาพว่า ได้รับการประสานจากชายไทยไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 15 คน ที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อคน ส่วนกระบะคันที่ 2 มีนายมานะศักดิ์ อายุ 42 ปี เป็นคนขับ บอกว่าไปรับแรงงานต่างด้าวมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อไปส่งที่ กทม.
มีรายงานว่าคนขับรถกระบะคันที่ 3 นำแรงงานต่างด้าวจำนวน 16 คน ไปทิ้งไว้กลางทาง แล้วขับรถหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปนำตัวแรงงานต่างด้าวอีก 16 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
แรงงานต่างด้าวบอกผ่านล่ามว่า ลักลอบเดินทางเข้ามาในไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีคนพาออกมาขึ้นรถเพื่อเข้ามาหางานทำ แต่ยังไม่รู้ว่าไปจังหวัดใด โดยเสียเงินให้กับนายหน้า 5,000-15,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวคนขับรถกระบะทั้ง 2 คัน ดำเนินคดีในข้อหา 1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ.-สำนักข่าวไทย