22 ม.ค. – กระแสวัยรุ่น-คนทำงาน ออกตามล่าหาเหรียญ เพื่อแลกเงินรางวัล ผ่านแอปฯ “Jagat coin Hunt” ของอินโดนีเซีย ด้านตำรวจไซเบอร์เตือนการเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญอาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก
ที่ จ.ภูเก็ต ตามพื้นที่ต่างๆ ในเขตเทศบาล สวนสาธารณะ ย่านเมืองเก่า มีกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ออกมาเดินหาเหรียญตามพิกัดต่างๆ ที่มีการระบุอยู่ในแอปพลิเคชัน Jagat coin Hunt ซึ่งพบว่ามีผู้เจอ ทำให้หลายคนมีความมั่นใจที่จะค้นหาเหรียญ และคาดหวังเป็นผู้โชคดี หากเจอเหรียญจะได้นำไปขึ้นเป็นเงิน
วัยรุ่นเชียงใหม่ยังล่าเหรียญ แต่น้อยลง ส่วนชาวบ้านไม่ชอบใจ
ที่ จ.เชียงใหม่ ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นตามล่าหาเหรียญ Jagat บริเวณริมถนน และรั้วบ้านอย่างจริงจัง แต่กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เพราะไปเหยียบต้นไม้ ปีนรั้วเปรอะเปื้อน เจ้าของบ้านบอกว่าเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ 3 วันก่อน ช่วงเย็นเห็นวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์มาหน้าบ้านและหาอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง จึงเข้าไปถามและทราบว่ามาตามล่าเหรียญ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ยังทยอยมาเรื่อยๆ ถึงดึกดื่น เช่นเดียวกับชาวบ้านในย่านนี้ที่อยากให้เล่นอยู่ในขอบเขต ไม่สร้างความเดือดร้อนและรุกล้ำสิทธิของคนอื่น
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดที่ในแอปฯ แจ้งว่ายังมีเหรียญ Jagat อยู่ จากเดิมมี 29 เหรียญ ตอนนี้เหลือ 1-2 เหรียญ พบวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งยังตามหาอยู่ ยอมรับหามา 3-4 วันแล้วแต่ยังไม่ได้ ส่วนที่มีกระแสเตือนให้ระวังทั้งการบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล และแอปฯ ที่ดึงข้อมูลส่วนตัว รู้สึกกังวลและระมัดระวังในการหาเหรียญมากขึ้น
แหล่งท่องเที่ยวเสียหาย จ่อใช้กฎหมายกับผู้บุกรุก
ส่วนที่พัทยา วอเตอร์สเปซ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองพัทยา ได้รับความเสียหายจากที่มีนักล่าเหรียญเข้ามาค้นหาเหรียญโดยไม่มีการขออนุญาต นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน งัดแงะปลั๊กไฟและขับรถจักรยานยนต์ขึ้นบันได ทำให้ปูนแตกและเกิดความเสียหายรุนแรง จึงออกมาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผลประโยชน์ใดๆ กับแอปฯ ดังกล่าว และเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน
ตร.ไซเบอร์เตือนภัยภารกิจล่าเหรียญเสี่ยงติดคุก
ด้านตำรวจไซเบอร์ประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าการเข้าร่วมกิจกรรมตามล่าหาเหรียญดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงท่านอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและระบุพิกัดตำแหน่งปัจจุบันที่ท่านอยู่ ซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมกิจกรรมเองอีกด้วย จึงขอให้พึงระวังไม่กระทำผิดกฎหมายขณะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
แอปฯ ล่าเหรียญ “Jagat”
Jagat แปลว่า “จักรวาล” ในภาษาอินโดนีเซีย เป็นแอปพลิเคชันที่กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่น ด้วยฟีเจอร์เด่นอย่าง “Coin Hunt” ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาเหรียญตามจุดต่างๆ ในสถานที่จริงเพื่อนำไปแลกรางวัลเงินสด แม้จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2568 ในอินโดนีเซีย แต่แอปฯ นี้กลับได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในสื่อโซเชียล โดยเฉพาะบน TikTok ความสำเร็จของ Jagat มาพร้อมกับประเด็นถกเถียงทั้งในแง่ความปลอดภัยและผลกระทบต่อสังคม
Jagat มีความคล้ายคลึงกับเกม Pokémon Go ในแง่ของการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) แต่จุดเด่นของ Jagat อยู่ที่การตามหา “เหรียญจริง” ซึ่งสามารถนำไปแลกเป็นเงินสด โดยเหรียญที่พบจะมีมูลค่าต่างกัน ตั้งแต่เหรียญทองแดงที่แลกรางวัลได้ 500-2,000 บาท ไปจนถึงเหรียญทองที่มีมูลค่าสูงถึง 200,000 บาท ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากตื่นเต้นและเข้าร่วมกิจกรรมล่าเหรียญในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา เพื่อเข้าร่วมเกม ผู้เล่นต้องสมัครและชำระค่าธรรมเนียมในการเล่น พร้อมทั้งสามารถจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อซื้อคำใบ้ที่ช่วยให้ค้นหาเหรียญได้ง่ายขึ้น เมื่อพบเหรียญ ผู้เล่นต้องกรอกรหัสในแอปฯ เพื่อรับเงินรางวัล ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีภายใน 2-3 วัน ฟีเจอร์นี้สร้างแรงจูงใจให้วัยรุ่นจำนวนมากเข้าร่วมล่าเหรียญอย่างจริงจัง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ระบุว่าขณะนี้ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับแอปฯ เกมลักษณะนี้ แต่ สกมช. เฝ้าติดตามและยังไม่มีผู้ร้องเรียนมาแต่อย่างใด
จากการติดตามกระทบขณะนี้บุคคลผู้เล่นอาจไปบุกรุกสถานที่คนอื่น ก่อเรื่องรำคาญเพื่อหาเหรียญ นอกจากนี้ผู้เล่นอาจมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เพราะผู้เล่นต้องเปิดโลเกชั่นหรือสถานที่ของของตัวเอง ทำให้ผู้ให้บริการรับทราบความเคลื่อนไหว ในเรื่องนี้ถือเป็นความเสี่ยงของผู้เล่น และเสี่ยงต่อพื้นที่ได้ รวมถึงข้อมูลบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินรางวัล ซึ่งไม่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่ชัดเจน
ขณะนี้ยังไม่มีการร้องเรื่องการถูกโกงในการเล่นเกม แต่ผู้เล่นจะมีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล ต้องส่งบัญชีการเงินที่ต้องเปิดเผย ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ออกมาเตือนแล้ว ผู้เล่นควรระมัดระวัง
สคส.จ่อถก ETDA ปม Jagat ล่าเหรียญ เสี่ยงมิจฉาชีพไซเบอร์
พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยอมรับว่าแอปฯ Jagat ล่าเหรียญ มีความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัยและเสี่ยงถูกดึงเงินจากแอปฯ ธนาคาร เนื่องจากสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้ทั้งหมด และเข้าถึง location ของผู้ใช้งาน แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา จึงทำได้เพียงจับตาและเฝ้าระวัง
อย่างไรก็ตาม เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ที่กำกับดูแล new tech ต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชัน เพื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของแอปฯ พร้อมหารือแนวทางดำเนินงานร่วมในการป้องกันความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งาน.-สำนักข่าวไทย