คลังจัดเก็บรายได้ 11 เดือนปีงบ 60 สูงกว่าเป้า แต่ต่ำกว่าปีงบ 59

กระทรวงการคลัง 28 ก.ย. – กระทรวงการคลังเผยยอดเก็บรายได้
11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2560 ทำได้กว่า 2 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณ 2559  ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในภูมิภาคดีขึ้นทุกภาค


นายกฤษฎา 
จีนะวิจารณะ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวง การคลัง
เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง
11
เดือนแรกของปีงบประมาณ
2560  (ตุลาคม 2559 – สิงหาคม 2560) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ
จำนวน
2,132,067 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,961 ล้านบาท มีสาเหตุจากการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่น
การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ
และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตสูงกว่าประมาณการตามลำดับ
โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน
ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเบียร์
อย่างไรก็ตามรายได้นำส่งคลังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ
2559 จำนวน 59,084 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.8)
ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากรายได้พิเศษจากการประมูลคลื่นความถี่ 3
G 4G และเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาต TV Digital ในปีก่อน แต่หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว
รายได้นำส่งคลังปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน จำนวน 77
,677 ล้านบาท
หรือร้อยละ 3.9

ขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 2,679,296 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 
93.3
ของงบประมาณประจำปี
2560 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน
462,681 ล้านบาท
ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม
2560 มีจํานวนทั้งสิ้น 315,392 ล้านบาท


ทั้งนี้ เงินคงคลังในปัจจุบันที่มีจำนวนกว่า 315,000  ล้านบาท
และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ
2559 อยู่ประมาณ
12,000 ล้านบาท
สะท้อนให้เห็นถึงฐานะการคลังที่เข้มแข็งและพอเพียงสำหรับการดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงต่อไป

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนกันยายน
2560 ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังร่วมกับกรมบัญชีกลาง โดยสำนักงานคลังจังหวัด 76
จังหวัดทั่วประเทศพัฒนาเครื่องมือติดตามภาวะเศรษฐกิจใหม่
เพื่อสะท้อนการคาดการณ์กิจกรรมทางเศรษฐกิจรายภูมิภาคในอนาคต (6 เดือนล่วงหน้า)
จากการรวบรวมข้อมูลตรงของทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผลการสำรวจล่าสุดประจำเดือนกันยายน
2560 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า)
อยู่ในระดับที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง
ซึ่งอยู่ที่ 87.9 จากดัชนีแนวโน้มที่ดีขึ้นของภาคบริการ ซึ่งอยู่ที่ 97.7
โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่พบว่าหลายจังหวัดเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
รวมถึงการลงทุนภายในภูมิภาค ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง
ตามความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มการลงทุนอยู่ในระดับสูงที่
98.6

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก
อยู่ที่ 82.2 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากด้านการท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากหลายจังหวัดในภูมิภาคจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มภาคบริการของภูมิภาค ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 97.6
ประกอบกับแนวโน้มด้านการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนมีทิศทางที่ดี
ตามจำนวนโรงงานที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับแนวโน้มของการผลิตภาคบริการ อุตสาหกรรม
และการลงทุนภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงส่งสัญญาณดีขึ้น
ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ 75.7


ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ
อยู่ที่ 74.9 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการ ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 85.1
โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวและค้าปลีกค้าส่งที่มีแนวโน้มที่ดี
เนื่องจากหลายจังหวัดจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลการท่องเที่ยว
รวมถึงภาคเกษตรที่มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ 71.3
ตามแนวโน้มที่ดีของภาคบริการ 
นำโดยการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ จากแนวทางการสนับสนุนของนโยบายภาครัฐ เช่นเดียวกับแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมภายในภูมิภาค
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ 70.6
ตามแรงสนับสนุนจากแนวโน้มของภาคการจ้างงานภายในภูมิภาค ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีที่
86.7 จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายจังหวัดและแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักของภูมิภาค นอกจากนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม.และปริมณฑล ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 61.5
จากแนวโน้มในภาคการจ้างงาน ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 81.8
เนื่องจากภาคการผลิตมีการเพิ่มกำลังการผลิต-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง