เอกชนชี้นโยบาย “ทรัมป์” ไม่สร้างความตึงเครียดเศรษฐกิจเท่าที่คาด

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยนโยบายของทรัมป์ไม่สร้างความตึงเครียดทางเศรษฐกิจเท่าที่คาดไว้ เชื่อเป็นการประกาศนโยบายเพื่อสร้างคะแนนนิยม


ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยนโยบายของทรัมป์ไม่สร้างความตึงเครียดทางเศรษฐกิจเท่าที่คาดไว้ เชื่อเป็นการประกาศนโยบายเพื่อสร้างคะแนนนิยม ส่วนการถอนตัวจากข้อตกลงปารีส จะกระทบต่อธุรกิจประเภทพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า แต่จะทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซไม่พุ่งสูง รัฐบาลต้องทำงานเชิงรุก ร่วมกับภาคเอกชนซึ่งมีข้อมูลในการเจรจาการค้าเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งฝ่ายไทยและสหรัฐอเมริกา

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการประกาศนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั้น ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แต่เบื้องต้นเห็นว่า ไม่สร้างความตึงเครียดต่อเศรษฐกิจโลกมากเท่าที่คาดไว้เดิม นโยบายที่ประกาศออกมาเป็นการสร้างคะแนนนิยม สำหรับในอาเซียนมีเวียดนามและไทยที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก การที่กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนจะเดินทางไปเจรจากับทางการสหรัฐอเมริกาเป็นการทำงานเชิงรุกร่วมกันเนื่องจากเอกชนมีข้อมูลเชิงลึกที่จะใช้ในการเจรจาการค้าเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย


ส่วนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะให้สหรัฐอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงปารีส จะกระทบต่อธุรกิจประเภทพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ทำให้มั่นใจว่า ราคาน้ำมันและก๊าซจะไม่พุ่งสูง

ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามกันอีกสักระยะ แต่เชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะขับเคลื่อนนโยบายโดยยึดมั่นในประโยชน์ของพลเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเป็นสำคัญ. -512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ