ประจวบคีรีขันธ์ 20 ม.ค.-“อุตตม” ชี้ ศก.ไทยอ่อนล้า ฟื้นหรือฟุบ อยู่ที่การจัดการ พร้อม ชูแผนฟื้นเศรษฐกิจ-พัฒนาคน ดันเป็นวาระแห่งชาติ มุ่งแก้ปัญหาคนไทย ข้ามผ่านวิกฤต สู่อนาคตที่ยั่งยืน
นายอุตตม สาวนายน ประธานกรรมการนโยบาย เเละรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ การบริหารจัดการประเทศไทยในมุมมองของกูรูพลังประชารัฐ ว่า ในปี 2568 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายครั้งใหญ่ของประเทศไทย เศรษฐกิจจะฟื้นตัวหรือฟุบลง ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการกับความท้าทาย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ความท้าทายสำคัญที่อยู่เบื้องหน้าคือ เศรษฐกิจปากท้องของคนไทย ซึ่งยังคงเป็นปัญหาหลัก และยังต้องเผชิญกับสัญญาณเตือนจากภายนอก เช่นเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าและไม่ครอบคลุม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายอุตตม กล่าวต่อว่า ประเทศไทยยังเผชิญกับข้อจำกัดภายในคือขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง เครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง การส่งออกเผชิญความเสี่ยงที่จะหลุดจากขบวนเศรษฐกิจโลกใหม่ การท่องเที่ยวฟื้นตัวไม่เต็มศักยภาพ ความสามารถในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติลดลง การลงทุนรวมในประเทศตกต่ำถึงจุดต่ำสุดในรอบ 30 ปี เศรษฐกิจซบเซาอย่างต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่หลังวิกฤตโควิด-19 และฟื้นตัวช้ากว่าเพื่อนบ้านในอาเซียน เราจำเป็นต้องพลิกเกมเศรษฐกิจใหม่ เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างเร่งด่วน และสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
นายอุตตม ยังกล่าวถึง โจทย์ใหญ่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะรัฐบาลคือ การเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างแท้จริงและยั่งยืน รวมถึงการเร่งวางรากฐานเศรษฐกิจและยกระดับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งและสร้างความมั่งคั่งของเศรษฐกิจฐานรากและชุมชน
พรรคพลังประชารัฐ
“ผมจึงอยากเห็นรัฐบาลจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอ โดยเน้นการสร้างงานในชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมความเข้มแข็งในตัวเอง พร้อมยึดโยงกับการยกระดับภาคการเกษตร การท่องเที่ยว และวิสาหกิจชุมชน/การผลิตชุมชน ให้ผสานกันเพื่อผลักดันการพัฒนาให้ก้าวหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ”นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม กล่าวต่อว่า พปชร.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้คนไทยมีทักษะและองค์ความรู้ที่จำเป็น สร้างศักยภาพการเติบโตในเศรษฐกิจโลกใหม่ (New Economy) อย่างแท้จริง ทั้งนี้ หลายประเทศในอาเซียนได้เร่งลงทุนมหาศาลใน “การพัฒนาคน” แทนที่จะมุ่งเน้นเพียง การลงทุนใน “โครงสร้างพื้นฐาน” หรือ Hardware อย่างเดียว
นายอุตตม กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีพลังและความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวข้ามความท้าทายครั้งใหญ่ เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นในประเทศและสร้างความน่าเชื่อถือจากต่างประเทศ ผ่านการทำงานทั้งในสภาและพื้นที่ โดยอาศัยเครือข่ายที่เข้มแข็งทั่วประเทศ นอกจากบทบาทฝ่ายค้าน พรรคยังมุ่งพัฒนาการเมืองที่ตอบสนองความต้องการคนไทย แก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และวางรากฐานอนาคตที่มีคุณค่า.-315.-สำนักข่าวไทย