“จิราพร” เผยจ่อตั้ง คกก.เฉพาะกิจดูแลปม “OPPO-realme”

ทำเนียบ 15 ม.ค.-“จิราพร” เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องถกเครียด 2 ชั่วโมงครึ่ง ปม “OPPO-realme” เตรียมตั้ง คกก.เฉพาะกิจดูแลโดยเฉพาะ ขีดเส้นตายพรุ่งนี้ ต้องส่งข้อมูล “จำนวนเครื่อง-ผู้เสียหาย” ลั่นหากพบปล่อยกู้เกิน 15% ต้องมีคนรับผิดชอบ ชี้บริษัทมือถือผิดด้วย ฐานสนับสนุน โอดไม่สามารถใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลยต้องบูรณาการหลายมิติ

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีการตรวจสอบ OPPO (ออปโป้) และ realme (เรียลมี) ติดตั้งแอปพลิเคชันกู้เงินเถื่อน โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง


ภายหลังการประชุม นางสาวจิราพร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ สคบ.ได้เชิญทั้ง 2 บริษัทเข้ามาชี้แจง และรับทราบว่า ทาง กสทช.ได้หาข้อมูลและข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน รวมถึงตำรวจสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือในประเด็นนี้ ซึ่งได้มีการสรุปเป็นประเด็นหลัก คือ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อยับยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ประสานกับบริษัทมือถือ เพื่อถอนแอปพลิเคชันออก โดยทั้ง 2 บริษัท จะแจ้งผลกลับมาภายในพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และขณะนี้เรายังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการที่สามารถบังคับให้เขาถอนแอปฯ ออกได้ เป็นเพียงขอความร่วมมือ

ส่วนการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ตนทราบว่า แม้แต่ กสทช. ก็ไม่ได้มีกฎหมายที่จะไปตรวจสอบแอปฯ ที่ติดตั้งมากับมือถือ อำนาจหน้าที่สามารถตรวจสอบได้เพียงฮาร์ดแวร์ และหน่วยงานอื่นๆ ไม่มีกฎหมายที่สามารถตรวจสอบเชิงรุกได้ จึงมีการพูดคุยกันว่าจะตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นมา เพื่อดูว่าใครจะสามารถเป็นเจ้าภาพอุดช่องโหว่ เพื่อเป็นการป้องกันเชิงรุกได้


นางสาวจิราพร อธิบายว่า แอปฯ ในลักษณะนี้ มีอยู่ 2 ส่วน คือ แอปฯ ที่ติดมากับมือถือ ซึ่งจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อป้องกันการติดตั้งแอปฯ ที่ประชาชนไม่ต้องการและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และอีกส่วนหนึ่ง เป็นแอปฯ ที่โหลดได้ในแอปสโตร์ หรือ เพลย์สโตร์ ตนได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะเป็นผู้ถือกฎหมายในการอนุญาตประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยจะไปดูว่ามีกลไกอะไร หรือตั้งคณะกรรมการที่มีตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจแอปฯ

ขณะเดียวกัน นางสาวจิราพร ยังระบุถึงการเปิดรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สคบ. ดูแลคุ้มครองผู้บริโภค จะดูคดีแพ่งให้กับประชาชน และดูแลเรื่องสิทธิของประชาชน ประสานกับ บก.ปคบ. อีกส่วนคือ ตำรวจ หรือ บก.ปคบ. จะรับเรื่องร้องเรียนจากสภาผู้บริโภค เพื่อดูว่าหน่วยงานใดในตำรวจจะรับผิดชอบดูแลต่อ

ส่วนจะสามารถไกล่เกลี่ยในส่วนที่มีประชาชนไปใช้งานเงินกู้และจ่ายดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าเงินต้นได้หรือไม่ นางสาวจิราพร กล่าวว่า หากมาร้องเรียนกับ สคบ. จะเชิญผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลว่า แอปฯ นั้นปล่อยเงินกู้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งจะผิด พ.ร.บ.การธนาคาร แต่ในเบื้องต้น เท่าที่ตรวจสอบทั้ง 2 แอปฯ ไม่ได้ขออนุญาต ฟินอีซี่ เป็นเพียงแพลตฟอร์มการโฆษณา ไม่ใช่แอปฯ สำหรับการปล่อยกู้ แต่บริษัทปล่อยกู้เข้ามาโฆษณาในแอปฯ นั้น แต่แอปฯ สินเชื่อความสุข เป็นแอปฯ ปล่อยเงินกู้ และไม่ได้ขออนุญาต ตนจะให้ผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูล เพราะหากแอปฯ ดังกล่าวปล่อยกู้เกิน 15% ก็ถือว่าผิดกฎหมาย


เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีความพยายามอ้างว่า แอปฯ ถูกติดตั้งมาจากตัวเครื่องที่ประเทศจีน จะทำให้บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบหรือไม่ นางสาวจิราพร กล่าวว่า ทางตำรวจ สอท. เชิญบริษัทเข้ามาให้ข้อมูล และขีดเส้นในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) เพื่อสอบถามถึงที่มาการติดตั้งแอปฯ รวมถึงตรวจสอบว่าผิดกฏหมายใดหรือไม่

เมื่อถามต่อว่า หากมีความผิด ผู้ที่รับผิดชอบจะต้องเป็นส่วนใดบ้าง นางสาวจิราพร กล่าวว่า แอปฯ เป็นการติดตั้งโดยที่ไม่ได้รับการยินยอม หากตรวจสอบแล้วพบว่าให้กู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็จะถือว่ามีความผิด และหากเป็นเช่นนี้จะถือว่าบริษัทมือถือมีส่วนสนับสนุนให้กระทำความผิด ทั้งบริษัทแอปฯ ออปโป้ และเรียลมี จะต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามย้ำว่า บริษัทที่รับผิดชอบต้องเป็นบริษัทที่ประเทศจีน หรือบริษัทตัวแทนจำหน่ายของประเทศไทย นางสาวจิราพร กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่าเจ้าของบริษัทเป็นคนจีนหรือคนไทย แต่บริษัทมือถือเองมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย อย่างไรก็ต้องมีคนรับผิดชอบในประเด็นนี้ ซึ่งโทษจะมีทั้งจำและปรับ ตามกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย หากตนจำไม่ผิดมีการปรับหลักล้าน

นางสาวจิราพร ยังระบุอีกว่า จากการประสานของ กสทช. จะทราบจำนวนเครื่องที่จำหน่ายไปแล้วในวันพรุ่งนี้ ขณะนี้มีผู้มาร้องเรียนต่อ สคบ. ประมาณ 20 ราย และมีผู้ร้องเรียนต่อสภาผู้บริโภคอีกส่วนหนึ่งด้วย พร้อมย้ำว่า ประชาชนที่ได้รับความเสียหายสามารถร้องเรียนได้กับ สคบ.ในหลายช่องทาง ทั้ง 1166 และออนไลน์ สิ่งใดที่เราสามารถใช้กฎหมายของ สคบ.ดูแลผู้บริโภคได้ ก็จะทำทันที อะไรที่เกินขอบเขตอำนาจ ก็จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและดูแลประชาชน

เมื่อถามว่า คนที่ลบแอปฯ ไปแล้ว แต่กลับมีไลน์มาทวงหนี้ จะจัดการอย่างไร นางสาวจิราพร กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการอุดช่องโหว่ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ยอมรับว่า บางทีไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องบูรณาการกันหลายมิติ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพกับดาราดัง ใช้ กม.สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์กับดาราดัง ประกาศยินดีไทยใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดัน ลั่นวันนี้สำเร็จแล้ว นี่คือความภูมิใจของคนไทย

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา