11 ม.ค.- ตำรวจคุมตัว “เอ็ม กองเรือ” ส่งดำเนินคดี สน.ชนะสงคราม เจ้าตัวรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ด้าน ผบช.น.เตรียมสอบเข้มขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้เดินทางมาถึงที่กองบินตำรวจ และเรียกฝ่ายสืบสวนสอบสวนทำการประชุมเตรียมความพร้อม ในการควบคุมตัวเคลื่อนย้ายนายเอกลักษณ์ หรือ “เอ็ม กองเรือ” อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง”
โดยการประชุมครั้งนี้ ได้มีการเน้นย้ำกำชับไปยังที่หน่วยอรินทราช 26 ในฐานะเป็นกองกำลังที่จะรักษาความปลอดภัยตัวผู้ต้องหา และมีการซักซ้อมเตรียมแผนการเพื่อทำความเข้าใจ ในการที่จะส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ต่อไป
ต่อมาในเวลา 13.43 น. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอกลักษณ์มาถึงที่กองบินตำรวจ ขณะที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์ นายเอกลักษณ์ได้สวมเสื้อยืดสีขาว และเสื้อเกราะกันกระสุน กางเกงสีน้ำตาล หมวกสีขาว พร้อมสวมแมสก์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ ขึ้นรถตู้ฮุนไดสีขาว โดยมีรถคุ้มกันของหน่วยอรินทราช 26 ทั้งหน้าและหลัง พร้อมกำลังพลของหน่วยอรินทราชพร้อมอาวุธครบมืออีกหลายนายคอยดูแลความเรียบร้อย
พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า จากการซักถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง“ ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรชัดเจน เบื้องต้นตนมีหน้าที่ไปรับตัวผู้ต้องหาเพื่อนำมาส่งต่อให้กับทาง พล.ต.ท.สยาม ได้ดำเนินการนำตัวไปสอบสวนต่อ
สำหรับในประเด็นอื่นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคนสั่งการหรือไม่ หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชามีผู้ใดให้การช่วยเหลือหรือไม่ และเรื่องเส้นเงิน 60,000 บาทที่เข้ามายังบัญชีตัวผู้ร้าย และสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุว่าจะเกี่ยวพันการเมืองหรือไม่ รวมไปถึงตัวผู้ชี้เป้าและผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดเนื่องจากว่าในวันนี้เพียงแค่ไปรับตัวมา ซึ่งหลังจากนำตัวส่งให้กับทาง บช.น. แล้วกระบวนการสอบสวนถึงจะเริ่มขึ้น
เบื้องต้นจากที่ตนสังเกตสีหน้าของผู้ต้องหานั้นก็ดูเครียด แต่นิ่ง ไม่ได้พูดอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการไปรับตัวผู้ต้องหามา มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกับประเทศกัมพูชาหรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ ยืนยันว่าไม่มี
ด้าน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า สำหรับการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น จะต้องสอบปากคำตัวผู้ต้องหาและขยายผลเพิ่มเติมก่อนว่ามีผู้ใดบ้าง หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องก็จะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งตัวน้องสาวและตัวคนชี้เป้า และสำหรับข้อมูลของคนชี้เป้านั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ได้ เบื้องต้นทราบว่าเป็นคนประเทศกัมพูชา หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน จึงจะสามารถนำตัวของผู้ชี้เป้ามาดำเนินคดีได้ ส่วนเรื่องผลตรวจอาวุธปืนนั้น จะต้องรอข้อมูลจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจก่อน
เบื้องต้นจากการซักถามภรรยาผู้เสียชีวิตนั้น ตัวภรรยาไม่รู้จักกับตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ผู้เสียชีวิตและภรรยาเดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาเที่ยวเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคิดว่าเป็นเหตุซึ่งหน้าหรือมีการวางแผน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า คิดว่าน่าจะเป็นการวางแผนเพราะมีการล็อกเป้าอย่างชัดเจน ถามต่อว่าในแชทของผู้ต้องหาที่ระบุถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จะมีการตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า ตรงนี้จะต้องรอสอบสวนก่อน แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้มีข้อมูลในเรื่องนี้. 414.-สำนักข่าวไทย