“อัจฉริยะ” นำหลักฐานพร้อมแผนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ยื่น กมธ.ความมั่นคง

รัฐสภา ​9 ม.ค.-“อัจฉริยะ” นำหลักฐานพร้อมแผนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ยื่น กมธ.ความมั่นคง ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ คนในพื้นที่ชายแดนไทย จัดหาอำนวยความสะดวกหลอกคนไทยข้ามไปกัมพูชา ด้าน “โรม” บอกเป็นเรื่องใหญ่จะติดตามอย่างใกล้ชิด รับยังไม่มีข้อมูลคนไทยตกตึก กระโดดหนี หรือถูกจับโยน

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อนายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของสภาผู้แทนราษฎร กรณีแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ บนตึก 25 ชั้นและ 18 ชั้นในประเทศกัมพูชา ซึ่งนายอัจฉริยะ ได้นำรูปภาพและแผนที่มาโชว์กับสื่อมวลชน ซึ่งทั้งสองตึกมีการติดเหล็กดัดที่หน้าต่างเพื่อป้องกันการหลบหนี ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีเหตุการณ์กระโดดตึกเพราะการที่จะออกต้องออกทางด้านล่างตึกรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตึกควบคุมอยู่คนจะเข้าออกไม่ได้ นอกจากเป็นคนของขบวนการคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น การจะเข้าไปในตึกนี้ได้จะเป็นลักษณะแบบคอกม้า โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐ ทหารพรานและตำรวจ เก็บหัวคิว และมีขบวนการที่นำคนไทยและต่างชาติไปเปิดซิมการ์ด เปิดบัญชีธนาคารสาขาต่างๆโดยจะต้องเข้าไปสแกนใบหน้าที่ 2 ตึกนี้ ดังนั้นตนจึง ส่งคนเข้าไปสำรวจและทำแผนที่ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะส่งให้กับนายรังสิมันต์


นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่าการเดินทางเข้าไปทำงานที่นั่นต้องผ่านช่องทางธรรมชาติเป็นจุดรับฝากรถเป็นที่ส่วนบุคคล เช่นบ้านเจ๊หมู บ้านเจ๊มีน บ้านตาเกิดบ้านเจ๊ดาว ซึ่งเมื่อวานนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เข้าไปตรวจค้นที่จุดบ้านเจ๊ดาวซึ่งตรงกับข้อมูลที่นำมายื่นกับคณะกรรมมาธิการในวันนี้

นางอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงคดีมือปืนยิงอดีตส.ส. ฝ่ายค้านกัมพูชาก็มีการหลบหนีเข้าไปยังช่องทางธรรมชาติ จึงอยากให้คณะกรรมาธิการฯ ช่วยตรวจสอบลงพื้นที่ไปดูสถานที่จริง ที่มีการเก็บหัวคิวอย่างยาวนานสร้างความร่ำรวยให้กับภาคเอกชนทั้งทหาร ตำรวจในจังหวัดสระแก้ว มีการกระทำแบบนี้มานานแต่เหตุใดไม่มีใครรู้หรือตรวจสอบเพื่อดำเนินการเพื่อไม่ให้กระบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามฝั่งจากประเทศไทยไปยังตึก 25 ชั้นและตึก 18 ชั้นได้


ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้ติดตามและให้ความสำคัญโดยเฉพาะเรื่องของคอลเซ็นเตอร์และทุนสีเทาต่างๆวันนี้ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าปัญหาคอลเซ็นเตอร์เป็นเรื่องใหญ่ ทำลายและเกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวประเทศไทย และยังมีผลกระทบอื่นๆเช่นการหลอกลวงเงินคนไทยในปีปีนึงมีตัวเลขที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกมูลค่าน่าจะทะลุ 100,000 ล้านบาท ตัวเลขที่เป็นทางการประมาณ 80,000 ล้านบาทแต่ตัวเลขจริงน่าจะมากกว่านั้นและเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้มันคือวาระแห่งชาติต้องดำเนินการซึ่งตนได้ติดตามในฐานะส่วนตัวและในฐานะ ส.ส.รวมถึงในฐานะประธานกรรธิการฯ พยายามทำ ทุกอย่างเพื่อให้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค์ข้ามชาติอ่อนแอที่สุดแต่ลำพังคณะกรรมาธิการไม่สามารถทำได้ต้องพยายามทำให้รัฐบาลมีความเห็นที่ตรงกันเพราะเรื่องนี้สำคัญควรจะทำอย่างจริงจังรวมถึงบรรดามาเฟียสีเทาต่างๆ ซึ่งเมื่อวานก็มีผู้มายื่นร้องเรียนมาเฟียสีเทาชาวจีนที่จังหวัดภูเก็ต ทางคณะกรรมาธิการจะต้องนำไปหารือยืนยันเรื่องนี้จะไม่ช้าเพราะให้ความสำคัญซึ่งปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้มีเฉพาะฝั่งเมียนมา กัมพูชา รวมถึงยังมีที่คิงโรมันสามเหลี่ยมทองคำ

ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ก็มีคนไทยกระโดดตึกที่กัมพูชา เป็นตึกที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยชี้เป้าเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ ซึ่งตนก็ได้รับข้อมูลมาจากฝ่ายความมั่นคงเช่นกันส่วนสาเหตุที่ตกตึกเป็นการกระโดดเองหรือถูกจับโยน จากตึกยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกว่าสุดท้ายจะเป็นแบบใดแต่ข้อมูลที่ตนเคยจากเหตุการณ์ในอดีตจากคล้ายกับนายอัจฉริยะออกมาพูดว่าชั้นล่างของตึกเป็นเหล็กดัดถ้าต้องการถ้าต้องการจะออกจากตึกวิธีการคือต้องกระโดดซึ่งซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายเคสทั้งชาวจีน ที่กระโดดออกมาแต่มีคนในท้องที่มาช่วยทำให้สามารถหลบหนีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาได้ซึ่งตนคิดว่ากรณีนี้อาจจะเป็นที่เขาพยายามจะหลบหนี แล้วกระโดดแต่ด้วยความสูงจึงอาจจะไม่โชคดีเหมือนรายอื่นๆ แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้ความรุนแรงต่างๆรวมถึงการโยนออกมาจากตึกซึ่งเรื่องนี้คงจะต้องมีการติดตามต่อไป.-319​.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่