ปักกิ่ง 9 ม.ค. – สื่อจีนเผยแพร่คลิปประทับใจของผู้คนที่ช่วยเหลือกันในช่วงที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ในเขตปกครองตนเองหนิงเซียะ หุย เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหว 2 ระลอก ความรุนแรง 4.8 และ 4.6 ในเมืองหยินชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซียะ หุย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน แม้จะไม่ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินมากนัก รวมถึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ที่สร้างประทับใจคือภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกเหตุการณ์ของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในขณะเกิดแผ่นดินไหว ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนอนุบาลหลายแห่งในเมืองหยินชวน ซึ่งทันทีที่บรรดาครูที่กำลังสอนนักเรียนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พวกเขาไม่ได้หนีเพื่อเอาตัวรอดคนเดียว แต่กลับวิ่งตรงเข้าไปหานักเรียนตัวน้อยในห้องเรียน ทำหน้าที่ดูแลให้พวกเขาปลอดภัยจากสิ่งของหรือเพดานห้องเรียนพังถล่มลงมาทับ แล้วรีบอพยพเด็กๆ ออกจากห้องไปยังที่ปลอดภัย ครูบางคนบอกให้เด็กๆ ซุกตัวเข้าไปใต้โต๊ะหนังสือเพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งของหล่นใส่ ก่อนอพยพเด็กๆ ออกไปยังด้านนอกโรงเรียน
ส่วนที่แผนกผู้ป่วยเด็กและทารกแรกเกิดภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทันทีที่เกิดแผ่นดินไหว พยาบาลที่เข้าเวรก็รีบวิ่งไปยังเตียงคนไข้ทารกวัยแบเบาะเพื่อให้แน่ใจว่าทารกไม่หล่นจากเตียง ก่อนที่พยาบาลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะเข้ามาช่วยกันดูแลผู้ป่วยเด็กที่เหลือในวอร์ด ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี
ขณะเดียวกัน เกิดภาพประทับใจที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เพราะหลังจากเกิดแผ่นดินไหว จะเห็นนักเรียนส่วนใหญ่รีบลุกจากห้องออกไปด้านนอก แต่มีนักเรียนคนหนึ่งเห็นว่าเพื่อนที่นั่งข้างๆ ตกใจกับเหตุการณ์จนขยับตัวไม่ได้ เขาจึงรีบแบกเพื่อนขึ้นหลังแล้วอพยพออกจากห้องเรียนอย่างปลอดภัย เจ้าตัวบอกว่าตัวเองก็ตกใจเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นเพื่อนตกใจยิ่งกว่าจึงต้องรีบช่วยเหลือ ขณะที่ทางโรงเรียนมอบเกียรติบัตรและรางวัลให้กับนักเรียนคนนี้ ชื่นชมความกล้าหาญและมีน้ำใจ ไม่ทิ้งเพื่อนร่วมห้องยามลำบาก
ส่วนความคืบหน้าแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ที่เขตปกครองตนเองทิเบตเมื่อวันอังคาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนรวมถึงทหารและตำรวจกว่า 14,000 นายเร่งเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ในเขตอำเภอติ้งรื่อ ใกล้เมืองชิกัตเซ เมืองศักดิ์สิทธิ์ของเขตปกครองตนเองทิเบต ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 126 ราย บาดเจ็บมากกว่า 200 คน โดยสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากซากบ้านเรือนที่พังเสียหายได้แล้วกว่า 400 คน แต่ยังไม่ทราบจำนวนผู้สูญหายแน่ชัด แต่โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตอาจจะเป็นไปได้ยากหากพ้น 24 ชั่วโมงไปแล้วเนื่องจากอากาศหนาวจัด ขณะที่ชาวบ้านกว่า 30,000 คน ต้องอพยพไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในพื้นที่อื่นเนื่องจากบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหมด.-815.-สำนักข่าวไทย