เตือนประกันไม่คุ้มครอง หากชนแล้วเป่าเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

กทม. 30 ธ.ค. – “คารม” เตือนประกันไม่คุ้มครอง หากชนแล้วเป่าเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กำชับทุกหน่วยงานดูแลเรื่องความปลอดภัยอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด กวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มเมาแล้วขับ โทรแล้วขับ และการขับขี่รถเร็ว


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน และมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านฉลองปีใหม่จำนวนมาก กำชับทุกหน่วยงานดูแลเรื่องความปลอดภัยอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ต้องปลอดจากแอลกอฮอล์ ตรวจเข้มเมาแล้วขับ โทรแล้วขับ และการขับขี่รถเร็ว

นายคารม กล่าวว่า สำหรับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่เข้าข่าย “เมาแล้วขับ” เมื่อมีแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และเสียค่าปรับเมาแล้วขับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน


ส่วนปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าอายุน้อยกว่า 20 ปี มีเพียงใบขับขี่ชั่วคราว หรืออยู่ระหว่างพักใบขับขี่ จะไม่ถือว่าเมาแล้วขับ แต่เป็นการเมาสุราเท่านั้น ส่วนอัตราโทษตามกฎหมายของการเป่าแอลกอฮอล์เกินกำหนดนั้นคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ค่าปรับเมาแล้วขับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หากไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์จะถือว่าเป็นการเมาแล้วขับทันที โทษจะเหมือนกันกับการเมาแล้วขับ คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ค่าปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน

นอกจากนี้หากเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุให้ได้รับอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ค่าปรับเมาแล้วขับ 20,000-100,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนถาวร หรือหากทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท พักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนถาวร หากทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย ในข้อนี้ถือว่าเป็นโทษที่หนักหนาที่สุด ต้องถูกจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี ค่าปรับเมาแล้วขับ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตถาวร

“การเมาแล้วขับเป็นการกระทำที่ประมาทอย่างมาก บริษัทประกันภัยต่างๆ จะไม่คุ้มครองหากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่จะมีการจ่ายไปที่คู่กรณีแทนและจะไปเพิ่มเบี้ยกับเจ้าของรถที่มีชื่อในกรมธรรม์แทน การเมาแล้วขับนับได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่เป็นอันตรายทั้งกับตัวเองและผู้อื่น และมีโทษตามกฎหมายที่มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเมาแล้วขับ หากจำเป็นต้องขับรถกลับจริงๆ อาจจะต้องใช้บริการคนขับตามแอปพลิเคชัน ให้คนที่มีสติมาขับแทน หรือพักผ่อนให้สร่างเมาเสียก่อนจะดีกว่า การป้องกันปัญหาด้วยการไม่ดื่มก่อนขับรถคือสิ่งที่ดีที่สุด เพียงเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือเรียกรถแท็กซี่ เท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้” นายคารม กล่าว.-315-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน

ฮอกกี้ไทย

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพจีน

นายกฯ ชวนคนไทยเชียร์ทีม “ฮอกกี้ชายไทย” เจอเจ้าภาพ “จีน” เย็นนี้ หลังเดินทางถึงนครฮาร์บิน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9