โพล ม.หอการค้าไทย ปีใหม่เงินสะพัด 1.09 แสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค.- โพล ม.หอการค้าไทย ปีใหม่เงินสะพัด 1.09 แสนล้านบาท คนใช้เงินออม-ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพราะสินค้าแพงขึ้น ทั้งคน กทม.-ตจว. ส่วนใหญ่ไม่ออกนอกพื้นที่ ไม่เห็นด้วยรัฐขึ้นภาษีเหตุเศรษฐกิจไม่ดี

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจ “พฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2568 และทัศนะต่อประเด็นต่างๆ” พบว่า การใช้จ่ายเพื่อตนเอง ร้อยละ 63.3 ใช้จ่ายสำหรับผู้อื่น ร้อยละ 0.1 ใช้จ่ายทั้งตนเองและผู้อื่นร้อยละ 36.6

โดยใช้จ่ายสำหรับตนเอง เช่น ในการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยสินค้าคงทน สังสรรค์ จัดเลี้ยง ทำบุญทางศาสนา ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ขณะที่ ใช้จ่าย เพื่อผู้อื่น ส่วนใหญ่ เช่น จัดเลี้ยง สังสรรค์ ซื้อกระเช้าของขวัญ ซื้อสินค้าหัตถกรรมไทย เงินสด /เช็คของขวัญ

ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่พบว่า ทั้งคนกรุงเทพและต่างจังหวัดมากกว่าร้อยละ 50 ไม่มีแผนเดินทางออกนอกพื้นที่ หรือไม่มีแผนท่องเที่ยว ส่วนประชาชนที่มีแผนเดินทางนำเงินไปใช้จ่าย 2 ส่วนคือ 1.ใช้เพื่อการท่องเที่ยว รวม 51,472 ล้านบาท โดยมีแผนเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศ 5,475 ล้านบาท และเที่ยวในประเทศ 45,997 ล้านบาท และ 2.ใช้ทำกิจกรรมอื่น ๆ 57,841 เช่น ซื้อสินค้าคงทน เลี้ยงสังสรรค์ ทำบุญ และซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

สำหรับแหล่งที่มาของเงินที่ใช้จ่ายในช่วงปีใหม่จากการสำรวจพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 47% นำเงินเดือนและรายได้ปกติมาใช้ รองลงมาคือเงินออม ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าในปีนี้สัดส่วนการนำเงินออมมาใช้จ่ายปรับเพิ่มขึ้นจาก 37.4% เป็น 45.6% สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เงินเดือนไม่พอใช้

โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.2 ยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่ลดลงและร้อยละ 46.3 ยอมรับว่าข้อของชีในปัจจุบันส่งผลให้มีการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่ลดลง ประเมินว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีเม็ดเงินสะพัด 109,313.78 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.2 จากช่วงปีใหม่ปี2567

ขณะที่ผลสำรวจสิ่งที่ต้องการได้เป็นของขวัญจากรัฐบาลมากที่สุด 5 อันดับแรก

1. ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม 31.2%
2. สร้างงานสร้างรายได้ 29.6%
3. กระตุ้นเศรษฐกิจโดยการส่งเสริมการลงทุน/การท่องเที่ยว/พัฒนาการเกษตร 16.5%
4. เพิ่มสวัสดิการสังคมและเพิ่มคุณภาพชีวิต 9.7%
5. แก้ไขปัญหาการคอรัปชัน 5.8%

นอกจากนี้ผลสำรวจเรื่องการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10-15% พบว่า

1. ไม่เห็นด้วย 38.4%
2. ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง 36.8%
3. เฉยๆ 19.4%
4. เห็นด้วย 5.1%
5. เห็นด้วยอย่างยิ่ง 0.4%

และผลสำรวจหากปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจะส่งผลดีต่อประเทศในด้านใดมากที่สุด

1. ไม่เห็นประโยชน์ใด 36.9%
2. ปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้มีประสิทธิภาพ 20.4%
3. เพิ่มรายได้ภาครัฐเพื่อการพัฒนาประเทศ 19.8%
4. เพิ่มงบประมาณด้านสวัสดิการสังคม 15.7%
5. ลดการขาดดุลงบประมาณ 7.2%

ผลการสำรวจสะท้อนว่าคนยังใช้จ่ายเหมือนเดิม แต่ต้องใช้เงินมากขึ้นเพราะสินค้าแพงขึ้น มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น และเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีคนก็จะไม่พร้อมจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น.-516-สำนักข่าวไทย