สำนักงาน กพ. 24 ธ.ค. – “สนธิ-ปานเทพ” ทวงถามข้อเรียกร้องรัฐบาลยกเลิก MOU44 ขายชาติ หลังครบ 15 วัน ขู่ลงถนนหากยังนิ่งเฉย
นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และประชาชนอีกหลายร้อยคน เดินทางมาเพื่อทวงถามคำตอบจากการยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณียกเลิก MOU44 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ นายสนธิ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เดินทางมาถึงที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยมีมวลชนคนเสื้อเหลืองรอต้อนรับปรบมือให้กำลังใจอย่างคึกคัก ก่อนที่นายสนธิ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อทวงถามความคืบหน้าข้อเรียกร้องที่การดำเนินการยกเลิก MOU44 และ JC44 โดยมีนายสมคิด เชื้อคง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือ
สำหรับข้อเรียกร้องที่ได้ยื่นไปให้คณะรัฐมนตรี เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าขัดแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้คณะรัฐมนตรีมีการเจรจากับประเทศกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU44 และ JC44 และระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย และขอให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชนร่วมรับฟังข้อเท็จจริง โดยมาทวงถามคืบหน้าหลังจากครบ 15 วัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าวแล้ว แต่กลับมีท่าทีนิ่งเฉยไม่เคยพูดถึงข้อเรียกร้องผ่านสื่อแต่อย่างใด ทั้งยังไม่มีข้อตอบรับใด ๆ ว่าจะจัดให้มีเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจปัญหาของประเทศ
นายสนธิ กล่าวว่า การแสดงออกของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ทำให้เห็นแล้วว่าจงใจละเลยต่อหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตย บูรพาแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเลยต่อหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และทำการสนับสนุนการกระทำความผิดที่จะทำให้ประเทศไทยหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องส่งไปอยู่ในอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ และยังเห็นว่าคณะรัฐมนตรีมีพฤติการณ์บางประการ ดูเหมือนคบคิดกับผู้นำของประเทศกัมพูชาด้วยความประสงค์ที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ.-420- สำนักข่าวไทย