เลขาฯ สพฉ. แจ้งเอาผิดปมขับรถปิดล้อม-แย่งตัวผู้ป่วยฉุกเฉิน

กทม.​23 ธ.ค. – เลขาธิการ สพฉ. ไม่ปล่อยผ่าน สั่งแจ้งความกลุ่มบุคคลซึ่งไม่ใช่ผู้ปฏิบัติการ ขับรถปิดล้อม-แย่งตัวผู้ป่วยฉุกเฉิน


เรืออากาศเอก นายแพทย์ อัจฉริยะ แพงมาเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) มอบหมายให้ผู้ช่วยเลขาธิการ สพฉ. ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลสายไหม ในพฤติการณ์กระทำความผิดของกลุ่มบุคคลที่ใช้รถลักษณะคล้ายรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินหลายคัน โดยเปิดสัญญาณไฟวับวาบ และขับปิดล้อมรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ได้รับการสั่งการโดยชอบและกำลังนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน บริเวณพื้นที่เขตสายไหม เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่า ในวันเกิดเหตุ เวลา 17.44 น. ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร ได้รับแจ้งเหตุผ่านหมายเลข 1669 จากพลเมืองดี ว่ามีผู้ประสบเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเอง มีผู้บาดเจ็บ 1 รายบริเวณเขตสายไหม ศูนย์เอราวัณได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการแพทย์ระดับพื้นฐานเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยและนำส่งโรงพยาบาล แต่ขณะดำเนินการนำส่งผู้ป่วย กลับถูกกลุ่มบุคคลพร้อมรถตู้ลักษณะคล้ายรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินหลายคัน เปิดสัญญาณไฟวับวาบแสงแดงและน้ำเงินขับตาม ทำให้หน่วยปฏิบัติการแพทย์ไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยต้องรับการรักษาได้เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่เหตุการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อรถตู้ดังกล่าวจำนวน 3-4 คัน ขับตามรถบริการการแพทย์ฉุกเฉินมาจนถึงบริเวณถนนพหลโยธิน ขาเข้าช่วงสถานีรถไฟฟ้าพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ปิดล้อมรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ก่อนพาตัวผู้ป่วยไปจากรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน พฤติการณ์ดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ขัดขวางการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งอาจส่งผลให้อาการของผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงและสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติการ รวมถึงความเชื่อมั่นในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน สพฉ. จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลสายไหม เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวตามกฎหมาย

เลขาธิการ สพฉ. เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้ป่วยและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติการ พร้อมขอความร่วมมือเคารพกฎระเบียบและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ไม่อนุญาตให้บุคคลซึ่งไม่ใช่ผู้ปฏิบัติการและไม่ได้รับการสั่งการจากหน่วยปฏิบัติการอำนวยการ เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน สพฉ. ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องความปลอดภัยของทั้งผู้ปฏิบัติการและผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั่วประเทศ .319.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี