นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน Bangkok Post Forum 2024

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.-นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน Bangkok Post Forum 2024 ร่วมกำหนดอนาคตของประเทศไทย “Thailand’s Next Chapter” ย้ำจุดแข็งของไทย ทั้งที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม พร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ปูทางสู่ความรุ่งเรืองและมั่งคั่งร่วมกันเพื่ออนาคตประเทศไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน Bangkok Post Forum 2024 โอกาสครบรอบ 78 ปี หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ในหัวข้อ “Redefine Thailand: The Road to Prosperity”


นายกรัฐมนตรี กล่าวเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมงานในวันนี้ เพื่อร่วมกันสำรวจเส้นทางอนาคตของประเทศไทยในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งกลยุทธ์ทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจำนวนมากและอุตสาหกรรมหนักอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ไทยต้องดึงศักยภาพและใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ไทยมีความโดดเด่น ในการกำหนดเส้นทางใหม่ที่จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และผลักดันไทยให้เป็นผู้นำในโลกที่มีพลวัตและความเชื่อมโยง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย 2 ประการ ดังนี้

ประการแรก ไทยมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์ การค้าและการแลกเปลี่ยน และการเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน เอเชีย-แปซิฟิก กับภูมิภาคอื่น ๆ ตลอดจนสามารถส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสินค้า คน และแนวคิดข้ามพรมแดน ผ่านทางโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ศูนย์กลางการบิน และเครือข่ายห่วงโซ่ความเย็น (cold-chained network) นอกจากนี้ ไทยยังสามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก ส่งเสริมความร่วมมือระดับโลก ในยุคแห่งการแบ่งแยก ไทยสามารถยืนหยัดเป็นแสงแห่งความร่วมมือและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันได้


ประการที่สอง ไทยมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นที่รู้จักในฐานะ “ครัวโลก” มานาน และตอนนี้ถึงเวลาที่จะยกระดับ ด้วยทรัพยากรทางการเกษตร ความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหาร และเทคโนโลยีขั้นสูง ไทยสามารถเปลี่ยนการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นเกษตรสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งมีศักยภาพที่จะยกระดับให้เป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว แต่สามารถเป็นสถานที่แห่งสันติภาพและการฟื้นฟู ด้วยชื่อเสียงด้านการบริการและมรดกทางวัฒนธรรม ทำให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยมีความโดดเด่น รวมทั้งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวและทำงานทางไกล (Digital Nomad) และผู้เกษียณอายุ

นอกจากนี้ ไทยให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับจุดแข็ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะเฉพาะแต่ละบุคคลได้อย่างแท้จริง รวมทั้งยังเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ผ่านการลงทุนในศูนย์ข้อมูล (data centers) และโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างงาน ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถจากทั่วโลก ตลอดจนเตรียมพร้อมบุคลากรของไทยในสาขาต่าง ๆ เช่น AI, Cloud Computing และความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ข้างต้นให้เป็นความจริง ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและประสานงานกันใน 4 ด้านหลัก ได้แก่
1.การปฏิรูปกฎหมาย (Legal Reforms) เช่น การอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ ผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันสมัยเพื่อให้ไทยมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจและสร้างสรรค์มากขึ้น อาทิ การปรับปรุงระยะเวลาในการยื่นขอต่ออายุใบอนุญาต และการบูรณาการระบบดิจิทัลเพื่อปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


2.การพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital Development) รัฐบาลมีโครงการ One Family, One Soft Power ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดการแบ่งปันความสามารถทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เร่งฝึกอบรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI เซมิคอนดักเตอร์ และยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมบุคลากรของไทยสำหรับโอกาสในอนาคต ตลอดจนฟื้นโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งทุนการศึกษา (One District, One Scholarship (ODOS)) เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีโอกาสไปศึกษาต่อในต่างประเทศมากขึ้น

3.การสนับสนุนทางการเงินสำหรับนวัตกรรม (Financial Support for Innovation) รัฐบาลจะเพิ่มเงินทุนสำหรับนวัตกรรมและ startups โดยให้ความสำคัญกับโครงการที่มีผลลัพธ์สูง และมีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน รวมถึงการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัย เพื่อเปลี่ยนแนวคิดที่ดีให้กลายเป็นธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง

4.มาตรฐานและการรับรองระดับโลก (Global Standards and Certification) รัฐบาลจะยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้แน่ใจว่า “Made in Thailand” จะสะท้อนถึงคุณภาพที่ดีเลิศ ตัวอย่างเช่น การนำการรับรองระดับสากลมาใช้เพื่อช่วยให้สินค้าส่งออกของไทย เช่น ทุเรียน สามารถรักษาสถานะพรีเมียมในตลาดโลกได้

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า กลยุทธ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นนโยบายเท่านั้น แต่ยังเป็นคำมั่นสัญญาที่จะกำหนดอนาคตของประเทศไทยใหม่ ด้วยการนำจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์มาใช้ค้นหาโอกาสใหม่ ๆ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนเป็นคำมั่นสัญญาที่จะสร้างความมั่งคั่งร่วมกันสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ชุมชน และภูมิภาคโดยรวม โดยทั้งหมดนี้เป็น “Thailand’s next chapter” บทต่อไปของประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมเดินทางไปด้วยกัน เพื่อสร้างอนาคตที่กำหนดโดยนวัตกรรม ความยืดหยุ่น และโอกาสสำหรับทุกคน.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ถังแก๊สระเบิด

ถังแก๊สระเบิดในโรงงานเหล็ก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ็บหลายราย

ถังแก๊สระเบิดในโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมเพลิงไหม้ เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บหลายราย และมีผู้ติดค้างอยู่ในโรงงานจำนวนมาก ล่าสุดคุมเพลิงและช่วยผู้ติดค้างภายในออกมาแล้ว

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ

“อัจฉริยะ” ยื่นรื้อคดี “แตงโม” เชื่อโดนฆาตกรรม

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการภาค 1 ขอให้รื้อคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม ภัทรธิดา” เผยผลชันสูตรไม่ตรงกับข้อมูลที่ตำรวจแถลงข่าว

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน Bangkok Post Forum 2024

นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษงาน Bangkok Post Forum 2024 ร่วมกำหนดอนาคตของประเทศไทย “Thailand’s Next Chapter” ย้ำจุดแข็งของไทย ทั้งที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม พร้อมใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ปูทางสู่ความรุ่งเรืองและมั่งคั่งร่วมกันเพื่ออนาคตประเทศไทย

ตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-ส.จ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลอาจเป็นลูกแท้ๆ

กองปราบฯ เร่งตรวจสอบความสัมพันธ์ “โกทร-สจ.โต้ง” หลังปรากฏข้อมูลว่าอาจเป็นลูกแท้ๆ ของ “โกทร” ที่เกิดจากภรรยาเก่า

นายกฯ ลั่นไม่ต้องคุย “ภท.” โหวตสวน พ.ร.บ.ประชามติ

นายกฯ ลั่นไม่ต้องคุย “ภูมิใจไทย” โหวตสวน พ.ร.บ.ประชามติ เชื่อไร้ปัญหา ยันทำทันรัฐบาลนี้ โยนวิปรัฐบาล เคลียร์พรรคร่วมเสียงแตก