สมุทรสงคราม 22 ก.ย.-จังหวัดสมุทรสงครามร่วมใจประดิษฐ์ดอกดาวเรืองยักษ์ เส้นผ่าศูนย์กลางถึง 259 เซนติเมตร จำนวน 9 ดอก กำหนดแล้วเสร็จทั้งหมดภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้
ภาครัฐ เอกชน และชาวสมุทรสงคราม ร่วมใจกันประดิษฐ์ดอกดาวเรืองยักษ์ 9 ดอก น้อมถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความอาลัย และแสดงถึงความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนจังหวัดสมุทรสงคราม ที่มุ่งทำความดีตามรอยพระองค์ท่าน โดยทุกเย็นที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา หรือสวนสุขภาพเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จิตอาสาจะหมุนเวียนกันมาประดิษฐ์ดอกดาวเรืองยักษ์ จากแผ่นโฟมชนิดบางมาตัดเป็นกลีบดอก ทาด้วยสีเหลือง มาเรียงร้อยเป็นดอกดาวเรืองขนาด 160 ซม. จำนวน 4 ดอก แต่ละดอกใช้กลีบจำนวน 850 กลีบ ซึ่งขณะนี้ทำครบแล้ว นอกจากนี้ยังทำดาวเรืองขนาด 190 เซนติเมตร 4 ดอก แต่ละดอกใช้กลีบจำนวน 1,600 กลีบ ทำเสร็จแล้ว 2 ดอก ไฮไลท์อยู่ที่ดาวเรืองดอกสุดท้าย ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 259 เซนติเมตร จำนวน 1 ดอก คาดว่าจะต้องใช้กลีบดอกมากกว่า 2,000 กลีบ มีกำหนดเสร็จภายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ เพื่อนำไปจัดแสดงในงานชาวสมุทรสงครามร่วมใจถวายความอาลัยปลูกต้นดาวเรือง 9,999 ต้น ที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งกิจกรรมจะมีทั้งเขียนปฏิญาณทำความดี วาดภาพประกอบเพลงพระราชนิพนธ์, การแสดงศิลปะเชิงสร้างสรรค์กราฟิตี้ การประกวดวาดภาพ สกรีนเสื้อนิทรรศการฟรี การสอนงานศิลปะต่างๆ เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และจะจัดแสดงนิทรรศการดอกดาวเรืองยักษ์ไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมนี้
ส่วนที่ จ.สระบุรี ลุงแสวง จิตต์จันทึก อายุ 65ปี ซึ่งพิการขาขาดทั้ง 2 ข้าง สละเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาท และเบี้ยคนพิการ 800 บาท มาซื้ออุปกรณ์เพื่อทำดอกไม้จันทน์ ใช้ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยความมุ่งมั่น โดยร่วมกับภรรยาและเพื่อนบ้านอีกคน นั่งทำกันที่บ้าน ในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยทำเป็นดอกดารารัตน์ ทำมาเกือบ 2 เดือน เสร็จไปแล้ว เกือบ 200 ดอก และจะทำไปเรื่อยๆจนใกล้วันจะครบกำหนด โดยจะนำไปให้เทศบาลทับกวาง อ. แก่งคอย จ. สระบุรีและในระหว่างที่พูดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ลุงแสวงถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากคนที่ไม่มีบ้านอยู่ ฐานะยากจนทั้งยังพิการ แต่ด้วยพระเมตตาทำให้ได้เข้ามาอยู่ในโครงการท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชันของพระองค์มาจนทุกวันนี้ .-สำนักข่าวไทย