ทำเนียบ 16 ธ.ค.-“ชูศักดิ์” เผย ผลหารือ “พริษฐ์” เห็นพ้องทำประชามติ 2 ครั้ง เตรียมถก “ประธานสภาฯ” บรรจุร่างแก้ ม.256 เชื่อเป็นทางออกแก้ รธน.ทันรัฐบาลชุดนี้ ชวน ครม. ยื่นร่างประกบ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือกับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า นายพริษฐ์ ได้นัดหารือร่วมกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า การทำประชามติเพียง 2 ครั้งนั้นเพียงพอ พร้อมกับชวนตัวแทนรัฐบาลเข้าหารือด้วย ซึ่งตนก็รับปากว่าจะเข้าพบ เพื่อหารือพร้อมกัน หากทำประชามติ 2 ครั้งได้ ทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จภายในรัฐบาลนี้ จึงรับปากว่าจะไปร่วมหารือ นอกจากนี้จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ว่าจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเคยไม่บรรจุเข้าวาระ แต่เมื่อนายพริษฐ์ ชวนให้รัฐบาลเสนอร่างประกบ ตนจึงบอกว่าขอไปหารือก่อน
ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า หลังจากเปิดประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ตน และสส.พรรคประชาชนได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม แก้ไขมาตรา 256 และหมวด 15/1 ให้มีสสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมี 2 ด่านที่ต้องฝ่าให้ได้ ตนมองว่าหากทั้งรัฐบาล และครม.ให้ความร่วมมือมากเท่าใด โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมีมากขึ้น โดยด่านแรกคือทำอย่างไรให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรยอมบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าวาระ ซึ่งเมื่อยื่นไปอีกครั้ง โดยภายใน 15 วัน หรือ ภายในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีการหารือกับผู้เสนอ และวินิจฉัยว่าจะบรรจุร่างฯฉบับนี้หรือไม่ หากทำได้การเดินหน้าจัดทำประชามติก็จะสามารถทำได้ ตนจึงมาขอความร่วมมือจากรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือด่านแรก
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายพงศ์เทพ ก็จะร่วมหารือในครั้งดังกล่าวด้วย
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนมองว่า นอกจากร่างฯของพรรคประชาชนแล้ว หากมีร่างฯของพรรคเพื่อไทยหรือร่างฯของครม.เข้ามาประกบ ก็จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งหากผ่านด่านแรกได้แล้ว ก็จะเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และเชื่อว่ารัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญ ต่อสส.ฝั่งรัฐบาลและสว. เพื่อให้แนวทางดังกล่าวผ่านทั้ง 3 วาระ ส่วนการหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ต้องอยู่ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้กำหนด แต่หากไม่มีข้อติดขัดอะไรร่างก็จะถูกบรรจุทันที แต่เนื่องจากเรื่องนี้มีข้อขัดแย้ง จึงคาดว่าจะต้องมีการหารือก่อนบรรจุวาระ
เมื่อถามว่ารัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่าการทำประชามติ 2 ครั้งจะไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เดิมมติครม.จะให้ทำประชามติ 3 ครั้ง แต่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้การทำประชามติ 3 ครั้งคงไม่ทัน จึงเกิดความคิดว่าจะทำอย่างไรให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ ภายในรัฐบาลชุดนี้ เพราะฉะนั้นอย่าถามว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของความเห็น อย่างไรก็ตามประเด็นอยู่ที่ว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะบรรจุร่างหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็จะนำไปสู่การทำประชามติ 2 ครั้งได้
เมื่อถามว่าจะต้องมีการทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงการทำประชามติ 2 ครั้งหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ใจความหลักอยู่ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร หากบรรจุก็จะเป็นการทำประชามติ 2 ครั้งโดยอัตโนมัติ ก็จบ.-316.-สำนักข่าวไทย