น้ำท่วมชุมพรสถานการณ์ดีขึ้นยกเว้น อ.สวี ยังอ่วม

ชุมพร 15 ธ.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมชุมพร หลายพื้นที่ระดับน้ำทยอยลดหมดแล้ว ยกเว้นอำเภอสวี ยังมีชาวบ้านเดือดร้อนหลายพันคน ขณะที่การจราจรฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ และขาล่องใต้ ถนนเอเชีย สาย 41 กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว


ภาพมุมสูงในพื้นที่อำเภอสวีจังหวัดชุมพร แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ ริมถนนสายเอเชีย 41 บริเวณอำเภอสวี ทั้งสองฝั่งยังเต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมขัง จากฝนตกหนักเมื่อวานนี้ แม้ว่าขณะนี้ระดับน้ำจะค่อยๆ ทยอยลดระดับลงจากวานนี้มากกว่า 1 เมตร จนทำให้ในหลายๆ จุดกลับสู่สภาวะปกติ แต่ก็มีอีกหลายจุดที่ยังคงเผชิญกับน้ำท่วมขังโดยเฉพาะพื้นที่ ชุมชนรอบๆ พระบรมมหาธาตุสวี โบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดชุมพรบางจุดน้ำยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร

ชุมชนติดริมแม่น้ำสวี และใน 4 หมู่บ้านของตำบลสวีและ 6 หมู่บ้านของ ตำบลปากแพรก อำเภอสวีจังหวัดชุมพร ชาวบ้านที่นั่นยังต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านที่มีน้ำท่วม และไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากทางการไฟฟ้าเข้ามาดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว โดยชาวบ้านในส่วนนี้ทาง จังหวัดชุมพร และ อบต.สวี ช่วยกันนำข้าวกล่อง เข้าไปแจกจ่าย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้สูงอายุ ทาง อบต.สวี ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงทหารจากหลายๆ หน่วย ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือรับตัวออกมา ดูแลให้พักอาศัยอยู่ภายในศูนย์อพยพชั่วคราวศูนย์พักพิงร่วมใจก่อนเพื่อความปลอดภัย


จากการพูดคุยสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ของอำเภอสวี เล่าให้ฟังไปในทิศทางเดียวกันว่า น้ำท่วมรอบนี้รุนแรงและหนักสุดในรอบหลาย 10 ปีแม้ว่าชาวบ้านจะเตรียมพร้อมรับมือขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงแล้วก็ตาม แต่ปรากฏว่าระดับน้ำท่วมสูงมากเกินความคาดหมายทำให้ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆได้รับความเสียหายจมใต้น้ำทั้งหมด

ขณะที่นายธวัชชัย ซื่อสัตย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสวีบอกว่า ขณะนี้สิ่งที่ทำได้ก่อนคือการ ช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินให้กับชาวบ้านได้อิ่มท้อง โดยทางอบต.ได้เร่งจัดครัวปรุงอาหารแจก จ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ 4 หมู่บ้านของตำบลสวีและ 6 หมู่บ้านของตำบลปากแพรก ที่มีผู้ได้รับความเดือดร้อนรวมกันราว 4,000 คน ขณะที่ทหารจาก มทบ 44 ได้มีการนำรถติดตั้ง อุปกรณ์ ผลิตน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวดเพื่อ มาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในช่วงนี้ด้วย

ทั้งนี้ จังหวัดชุมพร ได้สรุปตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้น จากน้ำท่วมในครั้งนี้รวม 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี อำเภอพะโต๊ะ อำเภอเมืองอำเภอปะทิว อำเภอหลังสวนและ อำเภอละแม รวม 47 ตำบล 379 หมู่บ้าน 7,701 ครัวเรือน ผู้ประสบภัย 43,290 คน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล