“ปกรณ์วุฒิ” หวังทำประชามติครั้งแรก ทันต้นปีหน้า

รัฐสภา 8 ต.ค. – “ปกรณ์วุฒิ” ยังหวังทำประชามติครั้งแรก ทันต้นปีหน้า​ เล็งเสนอเปิดประชุมสภา สมัยวิสามัญ เร่งเครื่อง​ร่าง​พ.ร.บ. ประชามติ ชี้เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจแก้รธน.​หรือถ่วงเวลา​ สงสัย​เลื่อนถกรายงานนิรโทษกรรมยื้อไปเพื่ออะไร​ เพราะเป็นบันไดขั้นแรกสู่ความปรองดอง และเห็นชอบรายงานไม่ใช่การเห็นด้วยกับแก้ม.112


นายปกรณ์วุฒิ​ อุดมพิพัฒน์สกุล​ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน​(วิปฝ่ายค้าน)​ กล่าวถึงแนวทางการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ หลังที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้แก้ไขเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ให้ใช้หลักการเสียงข้างมาก 2 ชั้น​ ว่า​สภาฯ​ คงยืนยันร่างและตั้งกรรมาธิการร่วมกัน2สภา​ พร้อมยอมรับว่า​ กังวลกรณีไทม์​ไลน์ที่จะมีการทำประชามติครั้งแรกเกิดขึ้นได้ต้นปีหน้าพร้อมกับการเลือกนายกอบจ. เพื่อประหยัดงบประมาณ​ และจะสะดวกต่อพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์​ แต่การแก้ไขร่างของวุฒิสภา และตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาอาจทำให้ไทม์ไลน์ตรงนี้กระทบได้ แต่ส่วนตัวก็ยังมั่นใจว่าหากทุกฝ่ายเห็นความต้องการว่า​ จะเป็นประตูบานแรกที่จะนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นฉบับของประชาชนอย่างแท้จริง ถ้ากรรมาธิการร่วมของทั้งสองฝั่งพิจารณาด้วยความรวดเร็ว และรอบคอบ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ ทั้งนี้หากจำเป็นต้องใช้เวลาคาบเกี่ยวกับช่วงปิดสมัยประชุม คิดว่าควรที่จะพิจารณาเปิดสมัยประชุมสภาฯสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่อง ร่าง​พ.ร.บ. ประชามติ

ทั้งนี้ถ้าการทำประชามติไม่ทันการเลือกตั้งนายกอบจ. อาจทำให้คนมาน้อยหรือไม่นั้น​นายปกรณ์วุฒิ​กล่าวว่า เบื้องต้นจะพยายามทำให้ทันกับการเลือกนายกอบจ.​ ก่อนเชื่อว่าทุกฝ่ายถ้าไม่มีเจตนาถ่วงเวลาและร่วมกันเชื่อว่าทำได้อยู่แล้ว หากคณะกรรมการพิจารณาจบเร็วถ้าเปิดสมัยวิสามัญได้​ ถ้าทุกฝ่ายจริงใจ เพราะเนื้อหาสว.ไม่ได้แก้เยอะ​ ถ้าทำงาน อย่างจริงจังก็คิดว่าจะทัน โดยวันพรุ่งนี้จะหารือ กับกรรมาธิการ ่รวม 2 ฝั่งก่อน ถ้าวางแผนกันได้ จะคุยกับประธานสภาฯ​เชื่อว่าไม่มีปัญหา เชื่อว่าประธานจะเห็นพ้องต้องกัน


ส่วนกรณีที่มีสว.บอกว่าหากไม่อยากแก้ก็สามารถที่จะใช้ กฎหมายประชามติ ฉบับปัจจุบัน ดำเนินการได้นั้น นายปกรณ์ กล่าวว่าอยากให้เสร็จสมบูรณ์พร้อม​ น่าจะเป็นประโยชน์ มากกว่า และยังมีความเป็นไปได้ ถ้าใช้ฉบับใหม่น่าจะมีความชอบธรรมมากกว่า ยังยืนยันมั่นใจว่าประเด็นที่สว. แก้มาไม่ใช้เวลานานในการพิจารณา

เมื่อถามว่าถ้าเห็นไม่ตรงกัน 2 สภาแล้วต้องเว้นพักกฎหมายนี้ไป 6 เดือน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าคงต้องเป็นการพิสูจน์ความจริงใจว่าเป็นการถ่วงเวลาหรือไม่เพื่อไม่ให้มีการ แก้กฎหมายประชามติ แก้รัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงขอตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ แต่ละฝ่ายมีความจริงใจในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

นายปกรณ์วุฒิยังกล่าวถึงรายงานแนวทางการศึกษาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่มีการขอเลื่อนการพิจารณาออกไป 2 สัปดาห์แล้วว่า ยังไม่ได้มีใครติดต่อประสานพูดคุย ซึ่งรายงานฉบับนี้ถือเป็นบันไดขั้นแรกที่นำไปพูดคุยกัน รายงานฉบับนี้ไม่ได้เป็นการเสนอกฎหมายแต่เป็นการพูดคุยถึงแนวทาง มีทางเลือกอย่างไรเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม​ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าการเลื่อนพยายามเลื่อนเพราะอะไร เพื่ออะไร ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันว่าความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาเป็นบาดแผลใหญ่ที่ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้ง ร้าวลึก​ ดังนั้นการเปิดประตู บาน แรกจะเป็นก้าวแรกที่ดีที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองในสังคม และเป็นเพียงรายงานการศึกษาไม่ใช่กฎหมาย น่าจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมสภาในสมัยประชุมนี้ หรือในช่วงวันพฤหัสบดีนี้เลย พร้อมมองเป็นเรื่องตลกที่จะขอเลื่อนไปเรื่อยๆเพราะไม่สมเหตุสมผลว่าจะเลื่อนไปเพื่ออะไร


ส่วนการเลื่อนไปเรื่อยๆจะกลายเป็นการยื้อหรือไม่นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ก็มองได้ว่าเป็นการยื้อ แต่ไม่รู้ว่ายื้อแล้ว จะได้ประโยชน์อะไรและยังไม่เข้าใจเพราะได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าทุกฝ่ายพร้อม

เมื่อถามว่าฝั่งรัฐบาลกังวลเรื่องความขัดแย้งหรือไม่เพราะมาตรา 112 เป็นปัญหาหลักอยู่ นายปกรณ์วุฒิย้ำว่าประเด็นคือต้องนำมาพูดคุยกันเพราะการที่ทุกฝ่ายเห็นชอบรายงานการศึกษานิรโทษกรรมไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 อาจจะเป็นความกังวลมากเกินไป ความขัดแย้งที่อยู่ข้างนอกเป็นเรื่องของสภาที่จะหยิบยกเข้ามาหารืออย่างมีวุฒิภาวะ ต้องหาจุดตรงกลางที่คิดว่าดีที่สุด.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]