“ปกรณ์วุฒิ” หวังทำประชามติครั้งแรก ทันต้นปีหน้า

รัฐสภา 8 ต.ค. – “ปกรณ์วุฒิ” ยังหวังทำประชามติครั้งแรก ทันต้นปีหน้า​ เล็งเสนอเปิดประชุมสภา สมัยวิสามัญ เร่งเครื่อง​ร่าง​พ.ร.บ. ประชามติ ชี้เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจแก้รธน.​หรือถ่วงเวลา​ สงสัย​เลื่อนถกรายงานนิรโทษกรรมยื้อไปเพื่ออะไร​ เพราะเป็นบันไดขั้นแรกสู่ความปรองดอง และเห็นชอบรายงานไม่ใช่การเห็นด้วยกับแก้ม.112


นายปกรณ์วุฒิ​ อุดมพิพัฒน์สกุล​ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน​(วิปฝ่ายค้าน)​ กล่าวถึงแนวทางการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ หลังที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้แก้ไขเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ให้ใช้หลักการเสียงข้างมาก 2 ชั้น​ ว่า​สภาฯ​ คงยืนยันร่างและตั้งกรรมาธิการร่วมกัน2สภา​ พร้อมยอมรับว่า​ กังวลกรณีไทม์​ไลน์ที่จะมีการทำประชามติครั้งแรกเกิดขึ้นได้ต้นปีหน้าพร้อมกับการเลือกนายกอบจ. เพื่อประหยัดงบประมาณ​ และจะสะดวกต่อพี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์​ แต่การแก้ไขร่างของวุฒิสภา และตั้งกรรมาธิการร่วม 2 สภาอาจทำให้ไทม์ไลน์ตรงนี้กระทบได้ แต่ส่วนตัวก็ยังมั่นใจว่าหากทุกฝ่ายเห็นความต้องการว่า​ จะเป็นประตูบานแรกที่จะนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นฉบับของประชาชนอย่างแท้จริง ถ้ากรรมาธิการร่วมของทั้งสองฝั่งพิจารณาด้วยความรวดเร็ว และรอบคอบ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ ทั้งนี้หากจำเป็นต้องใช้เวลาคาบเกี่ยวกับช่วงปิดสมัยประชุม คิดว่าควรที่จะพิจารณาเปิดสมัยประชุมสภาฯสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่อง ร่าง​พ.ร.บ. ประชามติ

ทั้งนี้ถ้าการทำประชามติไม่ทันการเลือกตั้งนายกอบจ. อาจทำให้คนมาน้อยหรือไม่นั้น​นายปกรณ์วุฒิ​กล่าวว่า เบื้องต้นจะพยายามทำให้ทันกับการเลือกนายกอบจ.​ ก่อนเชื่อว่าทุกฝ่ายถ้าไม่มีเจตนาถ่วงเวลาและร่วมกันเชื่อว่าทำได้อยู่แล้ว หากคณะกรรมการพิจารณาจบเร็วถ้าเปิดสมัยวิสามัญได้​ ถ้าทุกฝ่ายจริงใจ เพราะเนื้อหาสว.ไม่ได้แก้เยอะ​ ถ้าทำงาน อย่างจริงจังก็คิดว่าจะทัน โดยวันพรุ่งนี้จะหารือ กับกรรมาธิการ ่รวม 2 ฝั่งก่อน ถ้าวางแผนกันได้ จะคุยกับประธานสภาฯ​เชื่อว่าไม่มีปัญหา เชื่อว่าประธานจะเห็นพ้องต้องกัน


ส่วนกรณีที่มีสว.บอกว่าหากไม่อยากแก้ก็สามารถที่จะใช้ กฎหมายประชามติ ฉบับปัจจุบัน ดำเนินการได้นั้น นายปกรณ์ กล่าวว่าอยากให้เสร็จสมบูรณ์พร้อม​ น่าจะเป็นประโยชน์ มากกว่า และยังมีความเป็นไปได้ ถ้าใช้ฉบับใหม่น่าจะมีความชอบธรรมมากกว่า ยังยืนยันมั่นใจว่าประเด็นที่สว. แก้มาไม่ใช้เวลานานในการพิจารณา

เมื่อถามว่าถ้าเห็นไม่ตรงกัน 2 สภาแล้วต้องเว้นพักกฎหมายนี้ไป 6 เดือน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าคงต้องเป็นการพิสูจน์ความจริงใจว่าเป็นการถ่วงเวลาหรือไม่เพื่อไม่ให้มีการ แก้กฎหมายประชามติ แก้รัฐธรรมนูญหรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงขอตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ แต่ละฝ่ายมีความจริงใจในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

นายปกรณ์วุฒิยังกล่าวถึงรายงานแนวทางการศึกษาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่มีการขอเลื่อนการพิจารณาออกไป 2 สัปดาห์แล้วว่า ยังไม่ได้มีใครติดต่อประสานพูดคุย ซึ่งรายงานฉบับนี้ถือเป็นบันไดขั้นแรกที่นำไปพูดคุยกัน รายงานฉบับนี้ไม่ได้เป็นการเสนอกฎหมายแต่เป็นการพูดคุยถึงแนวทาง มีทางเลือกอย่างไรเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม​ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าการเลื่อนพยายามเลื่อนเพราะอะไร เพื่ออะไร ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันว่าความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาเป็นบาดแผลใหญ่ที่ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้ง ร้าวลึก​ ดังนั้นการเปิดประตู บาน แรกจะเป็นก้าวแรกที่ดีที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองในสังคม และเป็นเพียงรายงานการศึกษาไม่ใช่กฎหมาย น่าจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมสภาในสมัยประชุมนี้ หรือในช่วงวันพฤหัสบดีนี้เลย พร้อมมองเป็นเรื่องตลกที่จะขอเลื่อนไปเรื่อยๆเพราะไม่สมเหตุสมผลว่าจะเลื่อนไปเพื่ออะไร


ส่วนการเลื่อนไปเรื่อยๆจะกลายเป็นการยื้อหรือไม่นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ก็มองได้ว่าเป็นการยื้อ แต่ไม่รู้ว่ายื้อแล้ว จะได้ประโยชน์อะไรและยังไม่เข้าใจเพราะได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าทุกฝ่ายพร้อม

เมื่อถามว่าฝั่งรัฐบาลกังวลเรื่องความขัดแย้งหรือไม่เพราะมาตรา 112 เป็นปัญหาหลักอยู่ นายปกรณ์วุฒิย้ำว่าประเด็นคือต้องนำมาพูดคุยกันเพราะการที่ทุกฝ่ายเห็นชอบรายงานการศึกษานิรโทษกรรมไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 อาจจะเป็นความกังวลมากเกินไป ความขัดแย้งที่อยู่ข้างนอกเป็นเรื่องของสภาที่จะหยิบยกเข้ามาหารืออย่างมีวุฒิภาวะ ต้องหาจุดตรงกลางที่คิดว่าดีที่สุด.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน