กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – ป.ป.ส.แถลงข่าว “การประสานความร่วมมือปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศและภัยเงียบจากยาอันตรายตัวใหม่”
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการ สำนักปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส., สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (National Narcotics Control Commission : NNCC) จับกุมนายหลิน ไห่เทา สัญชาติจีน บุคคลตามหมายจับคดียาเสพติดของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งมีพฤติการณ์เป็นผู้จัดหาและสั่งการลักลอบผลิต Etomidate จากประเทศไทย เพื่อเตรียมไปจำหน่ายที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ประสานข้อมูลมาสำนักงาน ป.ป.ส. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกวางตุ้ง จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลาง Etomidate และเงินสด จำนวน 5.1 ล้านหยวน (ประมาณ 25 ล้านบาท) ส่วนหัวหน้าเครือข่าย คือ นายหลิน ไห่เทา หลบหนีเข้ามาประเทศไทย อีกทั้งยังมีพฤติการณ์เป็นผู้จัดหาและสั่งการลักลอบผลิต Etomidate จากประเทศไทย เพื่อเตรียมไปจำหน่ายที่สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย ตนจึงได้มอบหมายให้ นายปฤณ สั่งการชุดปฏิบัติการติดตามบุคคลตามหมายจับดังกล่าว สำนักปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบทราบว่า นายหลิน ไห่เทา เดินทางจากประเทศเวียดนาม เข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 จึงสืบสวนติดตามกระทั่งทราบว่าพักอยู่ที่โรงแรม ในเขตวัฒนา กทม. จึงเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และสามารถจับกุม นายหลิน ไห่เทา ได้ขณะลงมาจากห้องพัก ในวันที่ 5 ธันวาคม 2567
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า สารเอโทมีเดท (Etomidate) เป็นยากระตุ้นให้สลบชนิดออกฤทธิ์ระยะสั้น ๆ แต่ออกฤทธิ์เร็ว ซึ่งต้องได้รับการควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปัจจุบันพบว่ามีการนำมาใช้ในทางที่ผิด นิยมนำมาเสพโดยผสมใส่ในบุหรี่ไฟฟ้า ปัจจุบันเริ่มแพร่ระบาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการเสพสารเอโทมีเดท (Etomidate) อาจทำให้เกิดอาการมือสั่น ร่างกายสั่น ทรงตัวไม่ได้ และอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทแบบถาวร หรือหยุดหายใจ สำหรับประเทศไทย สารเอโทมีเดท เป็นยาควบคุมพิเศษ ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 การนำเข้า ครอบครอง ผลิต ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.
ทั้งนี้ แม้ว่าสารเอโทมีเดท ที่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด ยังไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมถึงฝากเตือนไปยังเด็กและเยาวชนให้เห็นถึงอันตรายจากการใช้ยาในทางที่ผิด. -119-สำนักข่าวไทย