นนทบุรี 2 ธ.ค. – หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดย คณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ ผนึกกำลังห้าง Modern Trade ชั้นนำของประเทศไทย จัดกิจกรรม “Big Match” ณ คอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 3 อาคารหอประชุม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ถนนแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี เพื่อผลักดันผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร เข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่าย Modern Trade ผ่านการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีห้าง Modern Trade ชั้นนำ ได้แก่ 7-11, Tops, Gourmet Market, Lotus’s, Big C, Robinson Lifestyle, OR, Jiffy, Makro, Wishco Wholesale, และ Taweekit Supercenter
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่ากิจกรรม “Big Match” เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าและพัฒนาศักยภาพในการเข้าสู่ตลาด Modern Trade ท่ามกลางปัจจัยที่เป็นความท้าทาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลต่อการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศและความไม่แน่นอนทางการค้า รวมถึงการย้ายฐานการผลิต ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้มุ่งมั่นส่งเสริมเศรษฐกิจไทยผ่านการทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนตามแนวทาง “Connect the Dots” เพื่อให้เกิดผลสำเร็จร่วมกัน
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยยังจะเป็นสะพานเชื่อมให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน และยังจะ promote เพื่อให้เข้าไปขายในต่างประเทศด้วย อีกเรื่องนึงที่เป็น pain point ที่เราคุยกันก็คือสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาถล่มและแข่งสินค้าของ SMEs ไทย โดยสภาหอการค้าไทยได้คุยกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องว่าต้องช่วยกันเร่งป้องกันแก้ไขปัญหา โดยตั้งอยู่บนพื้นฐาน คำว่าฟรีและแฟร์ ไม่มีการกีดกันการนำเข้า ส่วนสินค้านำเข้าต้องไม่ผิดกฎหมายและไม่ทุ่มตลาด ซึ่งสภาหอการค้าฯ ได้ทำข้อมูลเชิงลึกรวบรวมข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดไว้ในสมุดปกขาวและได้ยื่นให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว” นายสนั่น กล่าว
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ประธานคณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ กล่าว การจัดกิจกรรม Big Match ครั้งนี้ เป็นการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรกับห้าง Modern Trade อย่างแท้จริง มุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และอีกส่วนสำคัญของกิจกรรมที่เพิ่มความพิเศษให้มากขึ้น คือครั้งนี้ได้จัดให้มีการเสวนาและบรรยายให้ความรู้ การแบ่งปันประสบการณ์ และเทคนิควิธีการในการพัฒนาสินค้าให้มีศักยภาพ ได้คุณภาพ มีความแตกต่าง โดดเด่น จนได้รับความสนใจและสามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ อีกทั้ง ภายในงานยังจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การพัฒนาแพคเกจจิ้ง การวิจัยตลาดค้าปลีก การบริหารสินค้าคงคลัง ตลอดจนการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการให้เติบโตได้อย่างเข้มแข็ง
กิจกรรม “Big Match” ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2567 ต่อเนื่องจากความสำเร็จของกิจกรรม Big Match ยกระดับเศรษฐกิจภูมิภาค ที่จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งครั้งนี้มีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมการเจรจาจับคู่ธุรกิจถึง 220 ราย และผ่านการคัดเลือกมาร่วมงาน 145 ราย. -517-สำนักข่าวไทย