ดีเอสไอ 28 พ.ย.-DSI จับมือ PDPC ทลาย VIP กรุ๊ป แชร์คลิปลามก-อนาจาร ซื้อ-ขายในโซเชียล รวมเป็นแสนคลิป
ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมกับ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(PDPC) แถลงข่าวการทลายองค์กรอาชญากรรม ขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ/คลิปวีดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram โดยเจ้าหน้าที่กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กองปฏิบัติการพิเศษ สำนักตรวจสอบและกำกับดูแล และสนธิกำลังและลิฟท์อินเตอร์เนชั่นแนล (LIFT INTERNATIONAL) องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (OUR Rescue) มูลนิธิไซเอนเทียโปรแกรม (The Scientia Program) และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย (ThaiHotline) ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดตรัง จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจค้นขบวนการผลิต เผยแพร่ และส่งต่อภาพ/คลิปวีดีโอลามกผ่าน Website และ Telegram ในคดีพิเศษที่ 37/2567
สืบเนื่องจากกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดโดยใช้เว็บไซต์ www.asianclip.xyz, Telegram ชื่อ Asinclip ซึ่งมีพฤติการณ์โฆษณาจำหน่ายสื่อลามกอนาจาร โดยมีการโฆษณาเชิญชวนให้สมัครเข้ากลุ่ม Telegram มีภาพ หวาบหวิว และมีการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้สำหรับตนเองหรือผู้อื่น คือ จงใจแจ้งให้สมาชิกที่จ่ายค่าบริการเข้ารับชมทราบว่าบุคคลในภาพหรือคลิปวีดีโอ เป็นใครใช้ชีวิตประจำวันประกอบอาชีพอะไรหรือทำการศึกษาอยู่ในสถานศึกษาใด ซึ่งเป็นกรณีผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ส่งผลให้มีผู้เสียหายถูกคุมคามและได้รับความอับอาย โดยการใช้ Telegram ตั้งกลุ่มแยกตามประเภทวีดีโอลามกอนาจาร เช่น กลุ่มคลิปโป๊ กลุ่มแอบถ่ายในห้องน้ำ กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรง กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรงนักเรียนไทย กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรงเน็ตไอดอล กลุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรงดารา และห้องพิเศษ VIP เป็นต้น โดยเรียกเก็บค่าสมาชิกในราคาตั้งแต่ 300 – 1,000 บาทต่อเดือน สร้างรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน และพบว่ามีสมาชิกมากกว่า 20,000 ราย ไฟล์ภาพกว่า 20,000 ภาพต่อกลุ่ม คลิปวีดีโอรวมทุกกลุ่มแล้วเกือบ 100,000 คลิป ที่รวบรวมพยานหลักฐานได้มีประมาณ 1 หมื่นคลิป มีภาพอนาจารเด็ก 10%
ชุดปฏิบัติการที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว จับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดได้ ดังนี้ พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จับกุมนายธัชพล ได้ที่บริเวณบ้านใน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพฤติการณ์เป็นแอดมินเว็บไซต์ www.asianclip.xyz, Telegram ชื่อ Asinclip ในการเผยแพร่คลิปวีดีโอลามกอนาจาร และเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก ตามพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2560 ทำ ผลิต มีไว้ ประกอบการค้า หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งสิ่งอันลามก ฐานครอบครอง ส่งต่อ สื่อลามกอนาจารเด็ก ทำ ผลิต มีไว้ประกอบการค้า หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา
พื้นที่จังหวัดราชบุรี จับกุมนายทรงวุฒิ ได้ที่บริเวณบ้านใน อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมีพฤติการณ์เป็นผู้ให้ใช้บัญชีธนาคารในการเรียกเก็บค่าสมาชิกในหน้าเว็บไซต์และในกลุ่ม Telegram ในข้อหายินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน (บัญชีม้า) ข้อหายินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566
พื้นที่จังหวัดตรัง จับกุมนายธนากรได้ที่บริเวณบ้านในอำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โดยมีพฤติการณ์ ผู้จัดทำคลิปลามก โดยหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการหว่านล้อมพูดคุยให้เหยื่อโชว์ลามก เช่นหลอกให้ถอดเสื้อผ้าดูรูปร่างก่อนจะบันทึกภาพเพื่อเผยแพร่หรือจำหน่าย กระทำผิดในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ประมวลกฎหมายอาญา ฐานครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น มาตรา 287/1 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1(17) ฐานชักจูง ยุยง ส่งเสริม ให้เด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี แสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
คดีนี้ดีเอสไอดำเนินการปราบปรามสื่อลามกอนาจารออนไลน์ในเชิงรุก โดยไม่รอให้ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ แต่เริ่มจากการรวบรวมข้อมูลความเสียหาย ใช้เทคโนโลยีสืบสวนแกะรอยผู้กระทำความผิด และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพื่อสร้างความเรียบร้อยในสังคมและคุ้มครองสิทธิของประชาชน พร้อมระงับบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพ นอกจากนี้ จะมีการขยายผลต่อเอาผิดกับคนที่ครอบครองคลิป หรือ สมาชืกที่ซื้อบริการด้วย
สำหรับความผิดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะกลุ่มอ่อนไหว มีความผิดอาญากฏหมาย PDPA จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคดีนี้มีผู้เสียหายแบ่งเป็นทั้งโดนแชร์คลิปที่ถ่ายเอง แล้วภาพหลุด และกลุ่มไม่ยินยอม ถูกหลอกให้ถ่าย และเผยแพร่คลิปอนาจารบุคคลอื่น.-119-สำนักข่าวไทย