นครศรีธรรมราช 28 พ.ย. – พบศพ พ่อวัยชรากับลูกสาวนอนตายภายในบ้าน สภาพศพพ่อเหลือแต่กระดูก ส่วนลูกศพพองอืด พบเครื่องรางของขลังเต็มบ้าน
ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าตรวจสอบเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ภายในบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งปลูกอยู่ในป่าหญ้ารกร้าง ห่างไกลจากบ้านเรือนประชาชน เวลาเข้า-ออกบ้าน ต้องผ่านสนามบินค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 เท่านั้น
จากการตรวจสอบภายในบ้าน พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย ศพแรกคือนางเกศชฎา อายุ 57 ปี อยู่ในห้องครัว สภาพศพพองอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-6 วัน ส่วนอีกศพคือนายสำเริง อายุ 87 ปี อยู่ในสภาพเหลือแต่โครงกระดูก มีมุ้งปิดทับ นอนหงายอยู่บนพื้นบ้าน เจ้าหน้าที่คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือน หรือมากกว่านั้น
นายชาคริต สมาธิ ลูกอีกคนของนายสำเริง มาดูเหตุการณ์แจ้งกับตำรวจว่า นางเกศชฎา เป็นพี่สาวที่ดูแลพ่อที่บ้านมานานหลายปี ซึ่งพ่ออยู่ในวัยชราและป่วยติดเตียง ที่ผ่านมาพี่สาวจะไปขอเงินเพื่อมาเลี้ยงดูพ่อมาตลอด และหลายเดือนแล้วไม่ได้เห็นหน้าพ่อ จึงขอไปเยี่ยม แต่พี่สาวไม่ยอมให้เข้าไปในบ้าน จนกระทั่งมีญาติคนหนึ่งไปหาที่บ้าน เพราะไม่เห็นนางเกศชฎา หลายวัน พอไปถึงได้กลิ่นเหม็น จึงไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และพบร่างของนางเกศชฎา นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องครัว ส่วนนายสำเริง มีมุ้งปิดทับนอนเสียชีวิตใกล้ๆ กัน
เจ้าหน้าที่พยายามสอบปากคำญาติของผู้ตายทั้ง 2 ถึงสาเหตุการตาย แต่ไม่มีใครทราบ ระบุเพียงว่านางเกศชฎา นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตอนเลี้ยงดูแลพ่อก็ไม่ยอมให้ใครเข้าไปในบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายสำเริง น่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว แต่นางเกศชฎา ไม่ยอมบอกญาติเพราะความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์บางอย่าง เพราะในบ้านเกิดเหตุมีทั้งหุ่นกุมารทอง เครื่องรางของขลังเต็มไปหมด ส่วนการเสียชีวิตของนางเกศชฎา สันนิษฐานว่า อาจประสบอุบัติเหตุลื่นล้มศีรษะฟาดพื้น เนื่องจากในบ้านมีน้ำแฉะช่วงหน้าฝน หรืออาจจะเป็นลม แล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งจะส่งศพนางเกศชฎา ไปผ่าพิสูจน์ที่ศูนย์นิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป.-สำนักข่าวไทย