รัฐสภา 18 ก.ย.- กรธ.เดินหน้ายกร่าง พ.ร.ป.ป.ป.ช. ลดความซ้ำซ้อนและขั้นตอนการทำงาน กำหนดเวลาสอบสวนต้องเสร็จใน 2 ปี แก้ปัญหาคดีค้าง ขณะเดียวกัน ยังไม่ตัดป.ป.ช. จังหวัดออกแต่ปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ใหม่
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า หนักใจกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เนื่องจากกฎหมายมีความซับซ้อน แต่ขณะนี้ได้พิจารณาในประเด็นสำคัญ ๆ เสร็จแล้ว โดยเฉพาะ การลดความซ้ำซ้อนการทำงานระหว่าง ป.ป.ช. และอัยการ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในแนวทางเดียวกันในการฟ้องคดี ทั้ง 2 หน่วยงานต้องปรึกษาหารือกัน แต่ก็ยังคงมีความเป็นอิสระ หากอัยการมีความเห็น ไม่ฟ้อง ก็ยังคงเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ฟ้องเองได้
ประธาน กรธ. กล่าวว่า ได้กำหนดระยะเวลาการพิจารณาคดีต่าง ๆ จะต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อแก้ปัญหาคดีคั่งค้าง และให้ใช้เจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงาน แทนการตั้งอนุกรรมการ ก่อนส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช พิจารณา ซึ่งยืนยันว่า จะยังคงความเป็นธรรมและแม่นยำ และยังคงให้สิทธิข้าราชการไปร้องต่อศาลปกครอง เพื่อคุ้มครองตนเอง หากรู้สึกว่าถูกชี้มูลอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อเป็นการถ่วงดุลกัน และจะทำให้ ป.ป.ช. ต้องทำสำนวนอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บังคับบัญชาและผู้ถูกลงโทษรู้เห็นเป็นใจกัน จะบังคับว่า เมื่อมีใครไปฟ้องศาลปกครองแล้ว หากศาลรับฟ้อง จะต้องส่งสำนวนมายัง ป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช. ไปเป็นคู่กรณีต่อสู้ในชั้นศาล เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริง และข้อผิดพลาดด้วย
นาย มีชัย กล่าวว่า ในส่วนของ ป.ป.ช.จังหวัด ยังคงมีอยู่ต่อไป แต่ให้ปรับเปลี่ยนบทบาท จากที่เคยเป็นผู้ไต่สวนในพื้นที่ มาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ป้องกันการทุจริตแทน เพราะการให้คนในพื้นที่มาสอบสวนกันเอง อาจทำให้เกิดการเอนเอียงได้.-สำนักข่าวไทย