แม่พาลูกสาวร้องถูกภรรยาคนแรกของสามีทำร้าย

17 พ.ย. – จากปัญหาครอบครัว บานปลายกลายเป็นความรุนแรง แม่พาลูกสาวร้องสายไหมต้องรอด ถูกภรรยาคนแรกของสามีทำร้ายบาดเจ็บ แถมลูกยังถูกพักการเรียน


ผู้เสียหายนำคลิปลูกถูกทำร้ายที่หน้าบ้านของสามี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พร้อมกับเล่าว่า ตนเองเป็นภรรยาคนที่ 2 ของสามี มีลูก 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนโตอายุ 15 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 2 ขวบ 7 เดือน โดยกำลังเตรียมยื่นฟ้องศาล เรื่องสิทธิการปกครองบุตร เนื่องจากได้เลิกรากันและสามีนำลูกสาวคนเล็กไปดูแล แต่กีดกันไม่ให้ตนเองได้พบกับลูก ต่อมาโรงเรียนของลูกสาวคนเล็กติดต่อมาบอกว่า ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนเลย แล้วก็ติดต่อพ่อของเด็กไม่ได้ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนเองและลูกสาวคนโต จึงตัดสินใจไปหาลูกคนเล็กที่บ้านสามี สามีไม่อยู่ อยู่แต่ภรรยาคนแรก และลูกสาวของภรรยาคนแรก โดยบอกเพียงว่า ลูกของตนไม่ได้อยู่ในบ้าน แต่ตนเองได้ยินลูกตะโกนร้องหาแม่ จึงเข้าไปในบ้าน เพื่อพาตัวลูกออกมา ซึ่งก็มีการยื้อยุดฉุดกระชากกันเล็กน้อยระหว่างตนกับฝ่ายคู่กรณี

ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน ทางฝ่ายภรรยาคนแรกไปร้องเรียนกับสถานศึกษาที่ลูกสาวคนโตเรียนว่า ลูกสาวคนโตมีพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง บุกรุกไปถึงบ้าน โดยนำใบแจ้งความไปเป็นหลักฐาน พร้อมฝากบอกมากับทางสถานศึกษาว่า ให้ไปขอโทษและทำคลิปวิดีโอ ซึ่งสถานศึกษาก็สั่งพักการเรียนเด็ก โดยไม่ได้สอบถามถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวแต่อย่างใด เมื่อได้รับแจ้งจากสถานศึกษา วันที่ 12 พฤศจิกายน ตนเองกับลูกจึงนำพวงมาลัยไปขอขมาที่บ้านของคู่กรณี แต่กลับถูกจู่โจมเข้าทำร้าย ตนเองถูกไม้ตีศีรษะแตกเย็บ 1 เข็ม และถูกมีดปลายแหลมแทงที่นิ้วชี้ซ้ายเย็บ 6 เข็ม ส่วนลูกสาวคนโตถูกจอบตีศีรษะ 4 เข็ม จากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป


ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า จะต้องประสานไปยัง พม. เพราะกรณีนี้เป็นปัญหาครอบครัวแย่งบุตรกัน จนเกิดความรุนแรง อีกทั้งจะประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ท้องที่เกิดเหตุ ให้ตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมด้วย อีกทั้งยังฝากไปยังสถานศึกษาที่บุตรสาวคนโตของผู้เสียหายเรียนอยู่ ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนจะตัดสินใจมีคำสั่งพักการเรียน และควรให้คำแนะนำที่ถูกที่ควร เพราะเป็นเรื่องปัญหาภายในครอบครัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ