ภูมิภาค 16 ก.ย.- “ทกซูรี” แผ่อิทธิพลหลายจังหวัดฝนตกหนักลมแรง นอกจากเสาไฟฟ้า-ต้นไม้โค่นล้ม นาข้าวใกล้เก็บเกี่ยวเอนราบจมน้ำ เกษตรกรต้องเร่งเก็บขายก่อนกำหนดดีกว่าขาดทุนหนัก หากฝนถล่มอีก ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม
สถานการณ์ฝนตกหนักลมพัดแรงมาช่วง 2-3 วัน ในจังหวัดอุทัยธานี และคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) ยังมีฝนตกต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุทกซูรีนั้น ได้ส่งผลกระทบกับเกษตรกรทำนา ต.ทุ่งพง อ.หนองฉาง และ ต.หนองกลางดง อ.ทัพทัน ต้นข้าวใกล้จะเก็บเกี่ยวถูกลมฝนพัดราบจมน้ำ เกษตรกรต้องจ้างรถเกี่ยวข้าวเก็บผลผลิตออกขายก่อนกำหนด แม้ราคาขายไม่คุ้มทุน แต่ดีกว่าเสียหายหนักหากหากฝนตกลงมาอีก โดยข้าวที่เกิดความชื้นสูงขายได้ไม่เกินตันละ 6,000 บาท ส่วนข้าวยังไม่แก่จัดจะเหลือราคาตันละ 5,000-5,500 บาท ส่วนเกษตรกรที่เก็บข้าวขายไปก่อนหน้านี้และอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่นาหว่านเมล็ดข้าวเดือดร้อนเช่นกัน เพราะต้นข้าวที่งอกขึ้นอายุได้เพียง 5 วัน ถูกฝนกระหน่ำท่วมแปลงนา เกษตรกรต้องรีบสูบน้ำออก
ที่ จ.ลำปาง พายุทกซูรีทำฝนตกต่อเนื่องเช่นกัน นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด กำชับทุกอำเภอเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 4 อำเภอ คือ วังเหนือ เมืองปาน แจ้ห่ม และงาว ระวังน้ำป่าไหลหลาก นอกจากนี้ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปางยังเน้นย้ำให้ตำรวจทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพื้นใดสถานการณ์จากภัยธรรมชาติให้รีบรายงานทันที เพื่อจะได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชน
เช่นเดียวกับ จ.นครพนม ปริมาณฝนตกสะสมเกิน 120 มม. และฝนที่ตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมายังทำให้เสาไฟฟ้าริมถนนบายพาสนครพนม-ท่าอุเทน โค่นล้มกว่า 20 ต้น รวมทั้งต้นไม้ใหญ่ทับรถ ไม่มีผู้บาดเจ็บ ล่าสุดเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขแล้วสามารถจ่ายไฟได้แล้ว อย่างไรก็ดี สถานีอุตุนิยมวิทยานครพนมยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนระวังผลกระทบจากฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนแม่น้ำโขงไม่น่าห่วงยังรับน้ำได้อีกมาก ระดับน้ำอยู่ที่ 8 เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติ 5 เมตร แต่พื้นที่ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าเทือกเขาภูลังกา คือ ราบลุ่มเชิงเขา อ.บ้านแพง หากฝนตกหนักหลายชั่วโมงจะมีความเสี่ยง จึงต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย