ธปท.ชี้กรอบเงินเฟ้อปี 68 ที่ 1-3% ยังเหมาะสม

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. – ธปท.ชี้กรอบเงินเฟ้อปี 2568 ที่ 1-3% ยังเหมาะสม มองคลังให้โจทย์ต้องมีมาตรการหนุนเงินเฟ้อใกล้เคียงกับกรอบที่ 2% ยังอยู่ในกรอบ ชี้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนชะลอลงนับจากโควิด ยันเลื่อนเลือกตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่กระทบการทำงาน


นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในงาน Monetary Policy Forum ว่ากรอบเงินเฟ้อปี 2568 ที่ 1-3% ยังเป็นกรอบที่เหมาะสม เชื่อว่าทุกฝ่ายมีเป้าหมายร่วมกันในการต้องการเห็นเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งการดำเนินงานเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีหน้าที่ ดูแลภาวะเศรษฐกิจให้เอื้ออำนวยให้เหมาะสมซึ่งใช้เครื่องมือที่ผสมผสาน ทั้งการดูแลอัตราดอกเบี้ยการดูแลค่าเงินไม่ให้ผันผวนเกินไป รวมไปถึงมาตรการดูแลการแก้หนี้ ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจจะฟื้นขึ้น เงินเฟ้อจะสูงขึ้นแต่ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย ก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น ไม่ได้หน่วงจนเงินเฟ้อต่ำถือเป็นสิ่งที่ดี ระบุค่าเงินบาทไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แต่เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายคือการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่ง ธปท.ดูแลค่าเงินอยู่แล้ว เพื่อดูแลความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับการประชุม กนง.ในครั้งต่อไป จะต้องดูพัฒนาการทางการเงินเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจต่อไป

ส่วนกรณี นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้โจทย์ ธปท. มีมาตรการเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนหนุนเงินเฟ้อให้ใกล้เคียงกับกรอบเป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น มองว่าก็ยังเป็นตัวเลขในกรอบเป้าหมาย พร้อมระบุการวางกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเพื่อต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตไปอย่างมีศักยภาพ ซึ่งมองว่ากรอบดังกล่าวเอื้ออำนวยต่อการให้เศรษฐกิจขยายตัว


นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาวปรับลดลงภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง ซึ่งเป็นไปตามที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงและการชำระคืนของลูกหนี้หลังปรับเพิ่มขึ้นในช่วงโควิดตามมาตรการของทางการ สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นโดยเฉพาะในบางกลุ่ม เช่น รายย่อยกลุ่มเปราะบางและ SCB ที่รายได้ฟื้นตัวช้า สอดคล้องกับความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้นและสินเชื่อในธุรกิจลดลงจากการเผชิญปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับยานยนต์และธุรกิจที่ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแข่งขันจากจีน อย่างไรก็ตาม มองว่าการลดดอกเบี้ยไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้สินเชื่อลดลง

ส่วนการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการ ธปท. ที่มีการเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ยืนยันว่าไม่กระทบต่อการทำงาน เรื่องจากมีคณะทำงานรับผิดชอบแต่ละด้านอยู่แล้ว. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ