กทม. 30 ก.ย.-“พร้อมพงศ์” เดินหน้าเช็กบิล “บิ๊กป้อม” ขอเอกสารหลักฐานการเดินทางไปต่างประเทศที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จี้แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบวันลา มา ขาด ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ข้อมูลมาจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 จนถึงปัจจุบัน พบว่า พลเอกประวิตร ลาประชุมโดยอ้างว่าลาป่วยและติดภารกิจถึง 84 ครั้ง จากวันประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง และในวันประชุมสภาฯ ล่าสุดก็ยังไม่พบว่า พลเอกประวิตร เข้ามาทำหน้าที่ สส.เข้าร่วมประชุมสภาฯ แต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมของ พลเอกประวิตร ส่อให้เห็นว่าน่าจะไม่สนใจกระแสสังคม และเหมือนน่าจะท้าทายประชาชนเจ้าของเงินภาษี จึงจำเป็นต้องตรวจสอบต่อ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า การเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในวันนี้ตนเองโดยขอใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 41 (2) เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐ และขอปฎิบัติหน้าที่ปวงชนชาวไทยตามมาตรา 50(10) รวมถึงขอใช้สิทธิ์ตามพรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. 2540 เพื่อขอข้อมูลของ พลเอกประวิตร ที่ขาดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งน่าจะใช้การลาเป็นฉากบังหน้าโดยแจ้งลาว่าเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเดือนมีนาคม 67 รวม 3 วัน เดือนมิถุนายน 67 จำนวน 3 วัน เดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมอีกเดือนละ 2 วัน รวมทั้งหมด 8 วัน โดยขอทราบว่ามีการเดินทางไปจริงหรือไม่ และหากเดินทางไปต่างประเทศจริง เดินทางอย่างไร สายการบินอะไร ค่าใช้จ่ายเป็นไปตามระเบียบของทางราชการหรือไม่
“ผมได้ข้อมูลจากผู้ร้องซึ่งเป็นพลเมืองดีว่า การเดินทางน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ป.ป.ช. ก็เลยต้องมาตรวจสอบว่าเดินทางอย่างไร มีใครน่าจะร่วมสนับสนุนให้กระทำความผิดหรือไม่หรือตัวการร่วม แล้วจากข้อมูลที่ผู้ร้องมาว่าการเดินทางไปต่างประเทศของพลเอกประวิตรนั้นที่มีการลาประชุมสภา น่าจะเป็นกิจกรรมและพฤติกรรมที่ไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะและผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่เป็นผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า ผมขอยืนยันว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ใช่การดิสเครดิต หรือหวังผลทางการเมืองเหมือนที่ฝ่ายพลเอกประวิตรออกมากล่าวหาผม แต่เป็นการตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จนกว่าพลเอกประวิตร จะแสดงความรับผิดชอบโดยเข้าประชุมสภา หรือลาออกจากส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่เช่นนั้นผมจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป“ นายพร้อมพงศ์ กล่าว.-317.-สำนักข่าวไทย