รัฐสภา 24 มี.ค.-“อนุทิน” ชม นายกฯอิ๊งค์ แจงซักฟอกถึงสั้น แต่มั่นใจ บอกไม่ใช่เก็งข้อสอบถูก แต่รัฐบาลมีความพร้อมมากกว่า ซัดฝ่ายค้านจ่อยื่น ป.ป.ช. แค่พิธีกรรม เชื่อเสียงพรรคร่วมฯ เป็นเอกฉันท์ มอง พล.อ.ประวิตร มีความพยายาม เชื่อ เป็น 1 ใน 5 เป็นดาวสภาได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันแรก ว่า ทุกคนก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด การอภิปรายเป็นการตอบข้อสังสัย ไม่ใช่เป็นการอภิปรายเพื่อเค้นหาความผิด ถ้าอยู่ในกติกาก็เคลียร์กันไปทีละประเด็น ซึ่งอาจจะไม่มันส์ไม่สะใจ แต่ก็เป็นการตีแผ่ข้อเท็จจริง ก่อนย้ำว่า เราไม่ได้ต้องการให้เกิดความมันส์ หรือปะ ฉะ ดะกันเลือดโชก ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรเสียหายเราก็ตอบ
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่อภิปรายนั้นเป็นข้อมูลใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนก็มีแหล่งข้อมูลจากหลายแห่ง มีทั้งที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง อย่างกรณีที่บอกว่าเอาอัลไพน์มาแลกกับเขากระโดงเป็นข้อมูลเท็จโดยสิ้นเชิง เราก็ชี้แจงต่อไปไม่มีการแทรกแซงหรือความกดดันใดๆจากผู้ใหญ่
ส่วนการชี้แจงของนายกรัฐมนตรีเป็นเช่นไร นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านก็มีความมั่นอกมั่นใจ ท่านจึงตอบสั้นๆ
ส่วนจะสามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ข้อกล่าวหาเป็นรายละเอียด อย่างกรณีกระทรวงมหาดไทย ต้องนำข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงให้ประชาชนฟังผ่านผู้สื่อข่าว เพราะนายกรัฐมนตรีตอบได้แต่เพียงกรอบนโยบายเป็นภาพกว้าง จะไปตอบรายละเอียด เช่น มาตรา 61 วงเล็บเท่าใดหรืออยู่ในประมวลกฎหมายใด ก็ตอบไม่ได้หรอก ไม่มีใครตอบได้ ถ้าตอบได้ก็ต้องไปเป็นอธิบดีกรมที่ดิน เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เราก็ต้องเตรียมผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง ตนก็หวังว่า หน่วยงานที่ถูกถามในเชิงรายละเอียดจะสามารถชี้แจงได้
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมนำข้อมูลการอภิปรายไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นายอนุทิน กล่าวว่า เหมือนกับเป็นขั้นตอน หรือพิธีกรรม ถ้าส่งไปแล้วไม่มีหลักฐานมายันว่ารัฐบาลมีความผิดหรือบกพร่องก็ไปแก้ต่าง ซึ่งหลักไม่ว่าเป็นป.ป.ช. หรือหน่วยงานใด ก็ยังไม่มีว่าคนไม่ทำผิดหรือบกพร่องแล้วถูกกลั่นแกล้ง เพราะหากยังไม่ได้กระทำความผิดหรือบกพร่องโดยเจตนาที่ทุจริต ก็ไม่มีอะไรที่น่ากังวล
เมื่อถามต่อว่าการยื่นไป ป.ป.ช.จะไม่สามรถเขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปจบที่การไว้วางใจ ตนเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคพร้อมให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ไม่มีขาด
”เสียงโหวตน่าจะเป็นเอกฉันท์ นี่คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ถ้าผู้แทนของราษฎรยังให้ความไว้วางใจด้วยคะแนนเสียงที่ล้นหลาม และไม่มีข้อกังขาใดๆ ตนคิดว่าการดำเนินการอะไรต่อคงไม่มีผล แต่หากถูกยื่นไปยังหน่วยงานใดๆก็แล้วแต่คนที่ถูกยื่นก็ต้องเอาหลักฐานไปหักล้าง“ นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงการอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ขึ้นอภิปรายครั้งแรกในฐานะฝ่ายค้านเป็นเช่นไร นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านก็พยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งจริงๆ เราก็ต้องดูที่สาระ และสิ่งที่ท่านพูดก็มีสาระ แต่ถ้าจะไปบอกว่าต้องพูดให้เก่งแบบคนนั้นคนนี้ มันไม่ได้ จะไปหวังให้ทุกคนพูดน้ำไหลไฟดับ คล่อง จับประเด็นได้เก่ง เกิดมาแต่ละคนพรสวรรค์ไม่เหมือนกัน
ส่วนจะเป็นดาวสภาได้หรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า มีใครไม่รู้จักท่าน วันนี้ที่อภิปรายมาทั้งหมดถ้านับ 1 ใน 5 อันดับ ตนคิดว่าทุกคนก็ให้ความสนใจ พล.อ.ประวิตรอภิปราย อันนี้ก็ถือว่าเป็นดาวสภา ท่านเดินเข้ามาทุกคนก็หันไปมอง ก็อยากจะฟังว่าท่านจะพูดอะไร ซึ่งท่านก็พูดในความเป็นท่าน พูดได้ครบมีติ มีชม และมียอมรับว่าท่านพูดไม่เก่ง ท่านใช้ใจบันดาลแรง
“เห็นไหม ผมก็ฟังท่านทุกคำ แสดงว่าเรายังมีความเคารพท่าน และให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่ท่านได้อภิปราย“ นายอนุทิน กล่าว
ส่วนเต็ม 10 ให้เท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนได้เต็ม 10 เพราะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร และเชื่อว่า ทุกคนที่ขึ้นมาอภิปรายเขาเตรียมทุกอย่างมาดี ไม่มีใครลุกขึ้นมาแล้วพูดสด โดยที่ไม่มีการตระเตรียมอะไรทุกคนก็ทำการบ้านมา
เมื่อถามต่อว่าฝ่ายค้านถือว่ามือตกเมื่อเปรียบเทียบกับการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทำไมไม่มองว่ารัฐบาลนี้ไม่ทำอะไรบกพร่อง จนให้ฝ่ายค้านมาซักฟอกจนยืนไม่อยู่ ยอมรับว่า อาจทำอะไรที่ไม่ถูกใจ แต่ไม่มีหรอกว่าไม่ทำอะไรอยู่เฉยๆสิ้นเปลืองเงินเดือนไปวันๆ ไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่บางทีอาจจะไม่ปัง แต่ผลของการปฎิบัติงานก็เห็นๆกันอยู่ ว่าบรรลุเป้าหมายและนโยบายตามที่ได้รับมอบหมายมา
เมื่อถามว่าแสดงว่าการอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลเก็งข้อสอบถูกใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมองว่ารัฐบาลมีความพร้อมมากกว่า รัฐบาลรู้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปใน 6 เดือนที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นใครถามอะไรมาเราก็ตอบ
ขณะเดียวกันนายอนุทิน ปฏิเสธตอบคำถามการถือครองที่ดินเขาใหญ่ของน้องสาว โดยย้อนถามผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า คุณไปอยู่ที่ไหนมา เขาตอบไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ไม่เอาไม่ตอบ ถามแบบหาเรื่อง และย้ำว่า เขาได้มาอย่างถูกต้อง.-315.-สำนักข่าวไทย