นายกฯ  ประชุมร่วม ครม.ไทย-กัมพูชาที่พนมเปญ พรุ่งนี้

ทำเนียบฯ 6 ก.ย.-นายกฯ เตรียมเดินทางไปพนมเปญ พรุ่งนี้ (7 ก.ย.) เพื่อประชุมร่วม ครม.ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ต่อยอดจากการประชุมครั้งที่แล้ว หารือความร่วมมือทุกด้าน ทั้ง ปัญหาแรงงาน การค้าชายแดน และความร่วมมือสินค้าเกษตร


พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.60) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) กรุงเทพฯ โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปยังกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย-กัมพูชา ครั้งที่3  ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดการประชุมร่วมกันจากครั้งที่ 2 เมื่อพ.ศ.2558

สำหรับคณะที่จะร่วมเดินทางไปประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ จะมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โอกาสนี้ จะมีการหารือทวิภาคีกลุ่มเล็กระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชา ก่อนจะมีการประชุมคณะใหญ่ ประเด็นการหารือเรื่องเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรม ความร่วมมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยนายกรัฐมนตรีจะตอกย้ำเครือข่ายความเชื่อมโยงวัฒนธรรมทางบกและทางน้ำ ความคืบหน้าจากการประชุมครั้งที่แล้ว ความร่วมมือด้านแรงงาน  โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมกันดูการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ หาทางออก รองรับความต้องการแรงงานของประเทศไทย ส่วนการค้าการลงทุน  จะหารือการค้าตามแนวชายแดนให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ส่งเสริมการลงทุนทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า หลังการประชุม จะมีการลงนามร่วมกัน 2 ฉบับ ประกอบด้วยการลงนามแถลงการณ์ร่วมกันในการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ 3 เพื่อขยายความร่วมมือ สันติภาพและการพัฒนาร่วมกันอย่างสันติวิธี  และลงนามความตกลงเว้นการเก็บภาษี ซ้ำซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชา ที่จะหารือบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจกันบนผลประโยชน์ร่วมกัน ก่อนที่ทางกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน  นายกรัฐมนตรี จะเข้าเยี่ยมคาราวะ สมเด็จวิบุลเสนาภักดีสาย ชุม ประธานวุฒิสภา และรักษาการ แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา  ก่อนที่จะเดินทางกลับ กรุงเทพมหานคร ในเวลาประมาณ17.15 น. .-สำนักข่าวไทย                      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่