กงสุลใหญ่​ไทย ณ นครหนานหนิง เผยทุเรียนไทยยังคงยืนหนึ่งในจีน

หนานหนิง 6 ก.ย. – กงสุลใหญ่​ไทย ณ นครหนานหนิง เผยทุเรียนไทยยังคงยืนหนึ่งในจีน และขอให้มองความสัมพันธ์ไทย-จีน ในภาพบวก ส่งเสริมการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นมิตร


นางสาวเบญจมาศ ตันเวทยานนท์ กงสุลใหญ่ไทย ณ นครหนานหนิง กล่าวว่า แม้จีนกับไทย ไม่มีพรมแดนติดกันจึงไม่มีด่านโดยตรงระหว่างกัน แต่ไทยยังสามารถขนส่งสินค้าเข้าจีนได้โดยสะดวกทางด่านเขตปกครองตนเองกว่างซี เช่น ด่านบกโหย่วอี้กวาน โดยผ่านลาว และเวียดนาม ปัจจุบันผลไม้ไทยผ่านการประเมินความเสี่ยงด้านการตรวจกักกันจากสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน มีจำนวน 23 รายการ นับว่ามากที่สุดในบรรดาประเทศและเขตแดนต่างๆ ที่จีนอนุญาตให้นำเข้า

มีรายงานว่า ผลไม้สำคัญของไทยที่จีนนำเข้ามากที่สุด 4 ลำดับแรก ในปี 2566 คือ ทุเรียน มะพร้าว ลำไย และมังคุด และจากสถิติการส่งออกทุเรียนจากไทยเข้าจีน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นวันละประมาณ 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยเฉพาะทุเรียนจากภาคตะวันออก ทั้งนี้ ทุเรียนที่ออกมาจากพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของ เช่น นครพนม หรือมุกดาหาร ใช้เวลาขนส่งเพียง 1-2 วัน ก็ถึงตลาดจีนที่กว่างซี นับเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ไทย


ส่วนประเด็นที่มีความกังวลกันว่า ทุเรียนไทยในตลาดจีน มีคู่แข่งใหม่ทั้งจากเวียดนามและมาเลเซียนั้น กงสุลใหญ่ไทย ณ นครหนานหนิง ให้ความเห็นว่าจีนเป็นตลาดใหญ่มาก ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน จึงเป็นตลาดที่พร้อมรองรับสินค้าผลไม้จากอาเซียนในปริมาณมาก หากประชาคมอาเซียนร่วมกันหาทางส่งเสริมการส่งออกไปสู่ตลาดจีนด้วยกันก็จะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย เพราะลำพังทุเรียนจากประเทศไทยเพียงแห่งเดียวไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการของผู้บริโภคจีน แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากกว่า คือ การรักษาคุณภาพทุเรียนส่งออกของไทยให้สามารถแข่งขันได้ และครองความนิยมทั้งรสชาติและความปลอดภัย ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ในจีน พยายามร่วมกันดูแลช่องทางการขนส่ง รวมทั้งสร้างบรรยากาศ สร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือที่ดีกับประเทศจีน เพื่อให้สินค้าไทยส่งออกมายังจีนได้สำเร็จ

นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ไทย ณ นครหนานหนิง ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน รวมทั้งประเด็นกลุ่มทุนจีนผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญถึงอยู่ในขณะนี้ว่าอยากให้มองความสัมพันธ์ในภาพใหญ่ เนื่องจากในความเป็นจริงมีบริษัทและบรรษัทจีนจำนวนมากที่เข้ามาสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยทั้งในแง่เศรษฐกิจและการจ้างงาน-สร้างรายได้ นอกจากนี้ไทยและจีนยังมีความร่วมมือกันหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว เป็นธรรมดาของความสัมพันธ์ที่จะต้องมีปัญหาและอุปสรรค หนทางดีที่สุดในการแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น คือ ร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างเป็นมิตร ถ้อยทีถ้อยอาศัย ร่วมกันดูแลเพื่อสร้างประโยชน์และความสุขให้แก่ประชาชน พร้อมกันนี้ยังให้ข้อคิดว่าประเทศไทยมีต้นทุนที่ดีมากอยู่แล้ว เนื่องจากคนจีนรักประเทศไทย และชอบเที่ยวเมืองไทย จึงควรช่วยกันสร้างมิตรภาพและร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี.-810.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก