กทม. 3 ก.ย.-กนอ. โชว์ยอดขายและเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม ทุบสถิติใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มั่นใจประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เชื่อแคมเปญ “NOW Thailand” ตอกย้ำศักยภาพประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ปี 2567 กนอ. ประสบความสำเร็จในการขาย/เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมได้ถึง 6,174 ไร่ (ณ ต.ค.66 – ก.ค.67) ถือเป็นสถิติใหม่ (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์นั้น สะท้อนถึงความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่สูงมาก (High demand) โดยความสำเร็จนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของภาคส่วนต่างๆ กนอ. และพันธมิตรในการดึงดูดนักลงทุน รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้ กนอ. พัฒนาประสิทธิภาพการบริการ และการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ
“เป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนของ กนอ. สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาประเทศ กนอ. และนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินการ จะพยายามคัดเลือกประเภทกิจการที่จะเข้ามาลงทุนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่ออุตสาหกรรม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อมั่นว่า กนอ. จะร่วมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนได้” นายวีริศ กล่าว
ผู้ว่าการ กนอ. ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับองค์กร กนอ. สู่ยุคดิจิทัล โดยพยายามพัฒนาไปสู่ระบบ Big Data และ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญ รวมถึงระบบ Digital Twin เพื่อบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายผลจากนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ไปยังนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. เอง 13 แห่ง นอกจากนี้ ยังกำหนดรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่สามารถตอบโจทย์ด้านการใช้ระบบสาธารณูปโภค ด้วยพลังงานสะอาดและคาร์บอนต่ำ หรือ Smart IE. รวมถึงพัฒนากลไกต่างๆ เพื่อบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกทั้งระบบ ที่สำคัญ กนอ. ยังดำเนินการจัดตั้ง I-EA-T Academy เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมให้มากที่สุดด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ กนอ. กำลังดำเนินแคมเปญ
“NOW Thailand” เพื่อกระตุ้นและตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับนักลงทุนต่างชาติ.-517.-สำนักข่าวไทย