เงื่อนงำคดีพ่อค้าไก่ทอดขโมยเพชร 15 ล้าน (ตอน 1)

กรุงเทพฯ 4 ก.ย.-เมื่อต้นปีนี้มีพ่อค้าขายไก่ทอดชาวนครพนม ถูกจับกุมในข้อหาวิ่งราวทรัพย์เป็นเพชรมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวที่กรุงเทพฯ แต่ครอบครัวเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เพราะในวันที่เกิดเหตุ เขายังอยู่ที่ จ.นครพนม และมีพยานหลายคนเห็นพบเขาในวันนั้น ล่าสุด เรื่องของเขาอยู่ในการพิจารณาคดีในชั้นศาล ติดตามรายงานพิเศษ “เงื่อนงำคดีพ่อค้าไก่ทอดขโมยเพชร 15 ล้าน” วันนี้นำเสนอเป็นตอนแรก


นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ พ่อค้าขายไก่ทอด ชาวนครพนม อ้างถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้าของเพชร เมื่อ 28 ธันวาคมปี 59  ที่บ้านหลังหนึ่งย่านภาษีเจริญ ซึ่งเป็นสถานที่นัดดูเพชร

ในสำนวนของตำรวจ สน.บางเสาธง ระบุพฤติการณ์ว่า นายพิสิษฐ์โทรหาเจ้าของเพชร เพื่อนัดซื้อขายเพชร 4 รายการ คือ แหวนเพชร 2 วง เพชรแฟนซี และเพชรสีขาวอย่างละ 1 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท โดยขณะที่ดูเพชรกัน ผู้ต้องหาขอนำเพชรไปส่องดูกับแดด 2 ครั้ง โดยมีเจ้าของเพชรเดินตามมาด้วย แต่ครั้งที่ 2 ขณะเดินกลับเข้าบ้าน ผู้ต้องหากลับเดินหลบหนีออกมา และล็อกประตูขังเจ้าของเพชรไว้ภายในบ้าน หญิงคนนี้เป็นผู้ดูแลบ้านหลังที่มีการนัดดูเพชร รับฟังคำบอกเล่าจากเจ้าของเพชร


ผ่านมา 3 เดือน วันที่ 16 กุมภาพันธ์ปีนี้ นายพิสิษฐ์ ถูกตำรวจนครพนมจับกุมที่บ้านของเขาที่นครพนม ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงเรื่องซื้อขายที่ดิน ตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว นครราชสีมา ค่ำวันที่ 16 ต่อเช้า 17 กุมภาพันธ์ นายพิสิษฐ์ถูกนำตัวไปที่โรงพักสูงเนิน แต่ผู้เสียหายในคดีที่ดิน กลับถอนแจ้งความ เพราะเห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่ก่อเหตุ ถัดมาอีกเพียงวันเดียว มีตำรวจ สน.บางเสาธง นำหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในความผิดวิ่งราวทรัพย์ คดีเพชร 15 ล้าน มาขออายัดตัวเขาอีก และนำตัวเข้ากรุงเทพฯ ไปดำเนินคดี

เหตุการณ์ที่นายพิสิษฐ์ถูกจับกุม และตกเป็นผู้ต้องหาขโมยเพชร สร้างความสงสัยให้แก่ครอบครัวของเขาอย่างยิ่ง เพราะในวันที่ตำรวจระบุว่าเกิดเหตุวิ่งราวเพชรที่กรุงเทพฯ นางดารีวรรณ พ่อวงศ์ ภรรยานายพิสิษฐ์ ยืนยันว่าสามียังอยู่กับเธอที่นครพนม และในวันนั้นเขามีอาการโรคกระเพาะรุนแรง ต้องพบแพทย์ทุกวัน


ภรรยานายพิสิษฐ์บอกว่า ในวันที่สามีถูกจับกุม ตำรวจไม่ได้พาเขาไปที่โรงพัก แต่กลับพานั่งรถออกจากบ้านไปที่เซฟเฮาส์ เพื่อสอบปากคำ และถูกควบคุมตัวอยู่ที่นั่นหลายชั่วโมง ก่อนนำตัวกลับมาที่ สภ.นครพนม 

ภรรยานายพิสิษฐ์ เข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม ให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ยืนยันสามีของเธอไม่ได้ทำความผิด โดยขณะนี้เขาถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีมาแล้วกว่า 7 เดือน อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล ขณะที่ครอบครัวพบเงื่อนงำที่น่าสงสัยในคดีนี้หลายประการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง