พระนครศรีอยุธยา 30 ส.ค. – ผู้การอยุธยา สั่งเด้งตำรวจ นปพ.อยุธยา 15 นาย ช่วยราชการ ศปก. เผยเรียกสอบทีละคน แต่ยังไม่มีใครยอมรับ ยืนยันวิธีการล่อซื้อของตำรวจ ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้เซ็นคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ (นปพ.) ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 15 ราย ที่เข้าเวรในวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้มาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
กรณีที่นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี สาวไซด์ไลน์ ร้องเรียนกับเพจ “สายไหมต้องรอด” ว่าถูกชายฉกรรจ์ 4 คน มาติดต่อขอซื้อบริการ แต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดย 2 ใน 4 คน ที่ร่วมหลับนอน ได้ขอเงินค่าบริการ 1,500 คืน พร้อมอ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อนจะพาผู้เสียหายไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ซ้ำยังข่มจะขู่ดำเนินคดีข้อหาค้าประเวณี พร้อมเรียกเงิน 20,000 บาท จนต้องต่อรองและรวบรวมเงินจ่ายไป 5,000 บาท ท้ายสุดยังขู่ให้ต้องจ่ายส่วยและมาร่วมหลับนอนทุกเดือน
เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ทีมงานสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้พาไปชี้จุดเกิดเหตุ บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง ที่ถูกชายฉกรรจ์พาไปร่วมหลับนอน ก่อนจะไปชี้ห้องพักของหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ผู้เสียหาย ถูกพาตัวมาข่มขู่เรียกเอาเงินด้วย โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เก็บหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนทีละคน ทั้ง 15 นาย ว่าใครอยู่ที่ไหน อย่างไรในวันเกิดเหตุ ยังไม่มีใครยอมรับ ขณะที่ทางพนักงานสอบสวนได้นัดหมายผู้เสียหายในวันที่ 2 กันยายนนี้ เพื่อให้เข้ามาชี้ตัวผู้กระทำความผิด จากนั้นจะสอบสวนขยายผลดำเนินการทางวินัยและอาญาต่อไป
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยืนยันด้วยว่า การล่อซื้อจับกุมทุกคดี โดยเฉพาะในเรื่องการค้าประเวณี ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ การใช้พยานหลักฐานอื่นๆ สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ ส่วนที่มีการกล่าวอ้างจากกลุ่มชายฉกรรจ์ ว่าเรียกรับเงินเพื่อนำเงินไปส่งมอบให้กับนาย ขอยืนยันว่า ไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าจะสอบสวนติตดามตัว ชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คน ให้ได้ หากพบว่าเป็นตำรวจจริงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด .-สำนักข่าวไทย
