สธ.22 ส.ค. – “รศ.นพ.โอภาส” เผยสถานการณ์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเอ็มพอกซ์ แนะกลุ่มเสี่ยงควรฉีดก่อน คนทั่วไปยังไม่จำเป็น ส่วนใครเคยปลูกฝีฉีดกระตุ้น 1 เข็ม ป้องกันฝีดาษวานรได้
สถานการณ์โรคเอ็มพอกซ์ หรือชื่อเดิมฝีดาษวานร กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของโรคเอ็มพอกซ์ (MPox) ในบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกามีสถานะเป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” หลังจากโรคแพร่กระจายจากการระบาดสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 450 คน ไปตามประเทศต่างๆ ในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันออก
รศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ รักษาการรองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า สถิติการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเอ็มพอกซ์ (MPox) ที่คลินิกนิรนาม ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-22 ส.ค. 67 มีผู้เข้ารับบริการแล้ว จำนวนกว่า 400 โดส และยังมีประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าฉีดอย่างต่อเนื่อง โดยอาการข้างเคียงหลังฉีดพบว่ามีอาการปวด บวม แดง คลื่นไส้ คล้ายกับวัคซีนทั่วไป
รศ.นพ.โอภาส กล่าวว่า มีการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ 2 แห่ง คือ สถานเสาวภาและศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ซึ่งทางสภากาชาดไทยได้เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังพบว่าสถานการณ์โรคเอ็มพอกซ์ หรือฝีดาษวานร กำลังระบาด จึงได้จัดเตรียมวัคซีนไว้ 2,000 โดส สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ โดยปกติวัคซีน 1 โดส จะฉีด 1 ครั้ง โดยแต่ละคนจะต้องฉีด 2 ครั้งที่บริเวณชั้นใต้ผิวหนัง และหลังจากมีข้อมูลเพิ่มเติมเพิ่มขึ้นว่าสามารถที่จะแบ่งฉีดได้ 0.5 ซีซี สำหรับชั้นใต้ผิวหนัง สามารถที่จะปรับเป็นฉีดชั้นในผิวหนังได้ ซึ่งจะประหยัดวัคซีน 1 ใน 5 เท่า ฉะนั้นราคาก็จะถูกกว่า โดยข้อมูลจากสหรัฐอเมริกาพบว่าการฉีดในชั้นผิวหนังให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการฉีดชั้นใต้ผิวหนัง โดยได้มีการทดสอบประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนทั้ง 2 แบบ พบว่าไม่แตกต่างกัน ในประเทศไทยมีวัคซีนจำกัดจึงสามารถปรับเป็นการฉีดแบบชั้นในผิวหนังได้
สำหรับประชาชนทั่วไปในขณะนี้ยังไม่จำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนดังกล่าว แนะนำให้ใช้เฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์, เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ, บุคคลที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด, การมีเพศสัมพันธ์หรือไปสัมผัสกับบุคคลที่เป็นฝีดาษวานร โดยจะต้องฉีดภายใน 4 วัน และไม่เกิน 14 วัน ทั้งนี้ ยังไม่ต้องกังวลเพราะการติดไม่ได้ง่ายเหมือนติดโควิด ไวรัสตัวนี้จะติดผ่านการสัมผัสเป็นหลัก จึงยังไม่ต้องกังวลว่าจะมีการระบาดเร็วเพราะจะระบาดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการปลูกฝีไปก่อนหน้านี้แล้วจะมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มหรือไม่ รศ.นพ.โอภาส กล่าวว่า ในคนที่เคยปลูกฝีแล้วเชื่อว่ายังมีภูมิจากการปลูกฝีที่สามารถที่จะมีภูมิคุ้มกันข้ามไวรัสคนละสายพันธุ์ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ สำหรับคนที่ปลูกฝีแนะนำว่าถ้าไม่มีความเสี่ยงเลยไม่ต้องทำอะไร หากมีความเสี่ยงให้ฉีดกระตุ้นเพียงเข็มเดียว
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเอ็มพอกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 สำหรับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม (ครั้งละ 1 เข็ม) ห่างกันอย่างน้อย 28 วัน สามารถเลือกวิธีการฉีดได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง ในราคาเข็มละ 8,500 บาท วิธีที่ 2 ฉีดเข้าชั้น ผิวหนัง ในราคาเข็มละ 2,200 บาท ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ทาง LINE ID : @091AOJEX จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อท่านเพื่อนัดหมาย แจ้งวัน-เวลาเข้ารับบริการ โดยให้บริการฉีดวัคซีน ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-11.00 น. และ 13.00-15.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ที่คลินิกนิรนาม ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ สอบถามเพิ่มเติม โทร.0 2251 6711-5 (วันและเวลาราชการ) .-419- สำนักข่าวไทย