กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – “พิชัย” เผยเงินดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักหนุนเศรษฐกิจยุคใหม่ ย้ำเงินเฟ้อต่ำ ทำไมสินค้าไทยยังแพง เอกชนแนะยกระดับท่องเที่ยวไทย หนุนต่างชาติถือครองที่ดิน ลงทุนระยะยาว
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเดินหน้าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่ เมื่อจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่แล้วเสร็จ เข้ามาผลักดันให้เดินหน้าต่อ ในส่วนตัวมองว่า ดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ เพราะนอกจากเงินดิจิทัลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังเกิดประโยชน์ด้านอื่นอีกหลากหลายด้าน
นับว่าดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับรัฐบาล จึงเห็นประโยชน์ได้อย่างชัดเจน แม้ยังไม่ได้เริ่มใช้จ่ายเงินดิจิทัล แต่คนทั้งประเทศ ได้พูดถึงเงินดิจิทัลกันมากขึ้น จึงมั่นใจว่าคนไทยเริ่มศึกษาเรื่องเงินดิจิทัลกันมากขึ้น นับเป็นประโยชน์ของประเทศอีกทางหนึ่ง เพราะเงินดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญอันหนึ่ง ทำให้การแลกเปลี่ยน การลงทุน มีความรวดเร็ว หลากหลายมากขึ้น เป็นความจำเป็นของโลกสมัยใหม่
นายพิชัย กล่าวอีกว่า เมื่อเศรษฐกิจยังชะลอตัว ต้องเร่งแก้ไขให้ฟื้นตัว ยอมรับว่ากรณี กนง.คงอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 เป็นเพียงมาตรการหนึ่งดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ดูแลปัญหาเงินเฟ้อ ขณะที่ประเทศไทยมีความแตกต่างจากประเทศอื่น เงินเฟ้อต่ำ แต่ทำไม่สินค้า วัตถุดิบ จึงแพงขึ้น สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ไทยเป็นประเทศส่งออก ต้องปรับตัวให้ทัน รองรับการยกระดับเงื่อนไข เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน เพื่อให้เงินทุนต่างชาติลงทุนในประเทศได้ในระยะยาว
กรณีค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง เป็นการเคลื่อนไหวตามความเชื่อมั่นของตลาด เนื่องจากเงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ไทยมากขึ้นต่อเนื่อง มองว่าอยู่ในกรอบควบคุมดูแลได้ ยอมรับเงินบาทแข็งค่า มีทั้งผู้ได้รับผลกระทบ และผู้ได้เปรียบ เงินบาทแข็งค่าระดับนี้ยังไม่น่ากังวลมากนัก หากรัฐบาลไทยมีเสถียรภาพ ทำตัวให้ดี เงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าอาเซียนต่อเนื่อง ไทยต้องปรับตัว พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ
นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้ง กล่าวว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท นับว่ามีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงนี้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายรอบ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เช่น จีน ได้ส่งเสริมให้คนจีนเที่ยวจีน นับว่าเงินหมุนเวียนในประเทศจีนสูงมาก ดังนั้นทุกโครงการลงทุน การใช้จ่ายจะทำให้เกิดการหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น หากรัฐบาลผลักดันเงินดิจิทัลให้เดินหน้าต่อ
สำหรับด้านท่องเที่ยว ชาวตะวันออกกลาง เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลเมืองไทยเยอะมาก รัฐบาลชุดใหม่ ควรนำมาเป็นมาตรการ Quick Win เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เพราะเดินทางเข้ามาเป็นครอบครัว นอกจากมารักษาแล้วยังไปเที่ยวอีกหลายเมือง จึงควรยกระดับการท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีกหลายมาตรการ เพื่อทำรายได้เข้าประเทศ
ยอมรับว่า ธนาคารยังกังวลปัญหาหนี้ NPL ทำให้คุมเข้มการปล่อยกู้ ปฏิเสธการกู้เงิน ที่หลักประกันไม่เพียงพอ หากโครงการใด ชนะประมูลจากมาตรการรัฐ เช่น บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซัลไพรเออร์ ควรผลักดันให้ลงทุนได้ เพื่อให้เครือข่ายเดินหน้าต่อไปได้ เป็นสิ่งทำได้เลยในขณะนี้ และยังสนับสนุนแนวคิด รมว.คลัง เปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติ ได้สิทธิ์เช่าใช้ประโยชน์ในที่ดินมากขึ้น เพื่อการลงทุนระยะยาว นับเป็นสิ่งสำคัญทำให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจ จะดึงดูดการลงทุนเข้ามามากขึ้น. -515- สำนักข่าวไทย
