เตรียมใช้ภาษีจูงใจเอกชนบริจาคเงินกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – สมคิดให้ภาคเอกชนกลุ่มตื่นตัวนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ แนะเวลานี้คือโอกาสที่จะลงทุนในเชิงรุก เตรียมออกมาตรการทางภาษีดึงดูดเอกชนให้มาบริจาคเข้ากองทุนช่วยเหลือคนจนในเร็วๆนี้


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มามอลโล่ห์ประกาศเกียรติคุณการเข้าร่วมขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคธุรกิจเอกชน ให้กับ 7 องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ คือ บริษัท เอสซีจี , โตโยต้า , ปตท.,บางจากคอร์ปอเรชั่น,ซีพี ออลล์, เครือเบทาโกร ,และมิตรผล และ Supply Chain 37 องค์กร  พร้อมกับกล่าวว่า การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ สามารถทำได้ทุกคน ทุกหน่วยงาน ไม่ใช่เพียงแค่ภาคการเกษตรเท่านั้น เพียงใช้ความรู้ ข้อมูล และหลักศีลธรรมตามหลักพระพุทธศาสนามาใช้ และต้องดูความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตควบคู่ไปด้วย ซึ่งการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. นำเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจมาเผยแพร่ให้สร้างความเข้าใจ และขยายผล ทำให้เกิดความตื่นตัวไปสู่กลุ่มอื่นๆ  ให้เกิดความตื่นตัว โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ หอการค้า สถาบันต่างๆ เข้ามาร่วมในการเผยแพร่ 

อย่างไรก็ตามมองว่าตอนนี้โอกาสกำลังมาถึง เอกชนไทย เปลี่ยนจากการตั้งรับมาเป็นเชิงรุก เพราะเห็นตัวเลขเติบโต มีสัญญาณที่ดี กองทุนต่างประเทศ มีการประเมินเศรษฐกิจไทยและโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นทิศทางที่ดี ขณะที่เรื่องไม่ดีของไทยคลี่คลายไปแล้ว เชื่อว่าเงินที่ลงทุนตลาดหุ้นจะลงมาในอุตสาหกรรมจริง ซึ่งในวันที่ 11 กันยายนนี้จะมีนักลงทุนจากญี่ปุ่น 500 กว่าบริษัทมาเยือนไทย ดังนั้นเอกชนไทยเองต้องเปลี่ยนแปลง ต้องลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้เกิดเข้มแข็ง ต้องลงทุนรองรับโครงการรัฐบาล ต้องนำกระแสมาสร้างโอกาส แต่ต้องทำภายใต้อย่างรอบคอบ 


รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท  ซึ่งหลังจากมีการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นข้อมูลที่ประเทศไทยไม่เคยมีมาก่อน ต้องนำข้อมูลนี้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยเหลือคนได้ตรงจุด ให้ผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอาชีพ มีความรู้ สร้างโอกาส นอกจากนี้จะให้เอกชนเข้ามามีส่วนช่วยเหลือ เนื่องจากแต่ละปีก็มีงบ CSR อยู่แล้วก็ให้มาบริจาคเข้ากองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยจะมีมาตรการทางภาษีเข้ามาช่วยเสริมให้ภาคเอกชนมาเข้าร่วม โดยจะเร่งออกมาตรการให้ทันกับภาษีรอบใหม่- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ