สำนักงานป.ป.ช. 31 ส.ค.-ประธาน ป.ป.ช.แจงเหตุอุทธรณ์คำสั่งศาลฎีกานักการเมืองฯ คดีสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ เฉพาะพล.ต.ท. สุชาติเป็นไปตามวินิจฉัยเสียงข้างน้อย ขณะที่สุรศักดิ์ประกาศพร้อมรับผิดชอบต่อมติ
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงกรณีป.ป.ช.มีมติยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีสลายชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เฉพาะล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) คนเดียว ว่า เป็นเพราะหลังจากวินิจฉัยคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ทั้งคำพิพากษากลางและคำพิพากษาส่วนตนของตุลาการเสียงข้างน้อยแล้ว เห็นว่ามีประเด็นการสลายชุมนุมในช่วงค่ำที่เกินกว่าเหตุ
“ประกอบกับกฎหมายไม่ได้ระบุว่าต้องอุทธรณ์ จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับจำเลยทั้งหมดในการพิจารณาว่าจะอุทธรณ์ใครบ้าง จึงเลือกอุทธรณ์เฉพาะที่เห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอ และผมไม่ได้ออกเสียงลงมติครั้งนี้ ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของป.ป.ช.ตรงไปตรงมา เพราะหากทำผิดมาตรา 157 จะมีโทษเป็นสองเท่า ส่วนที่ตัวแทนพันธมิตรฯ เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้” ประธานป.ป.ช. กล่าว
สำหรับกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ยื่นเรื่องขอให้ป.ป.ช.รื้อคดีสลายชุมนุมปี 53 พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาว่ามีพยานหลักฐานใหม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะให้รื้อคดีกลับมาพิจารณาได้หรือไม่
ด้านนายสุรศักดิ์ ศรีวิเชียร กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ ทำงานยึดหลักความรวดเร็ว เที่ยงธรรม พิจารณาสำนวน พยานหลักฐาน ซึ่งจำเลย 4 คนที่ถูกกล่าวหาแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มนโยบายกับผู้ปฏิบัติการ ซึ่งจำเลยที่ 1-3 อยู่ในกลุ่มนโยบาย ส่วนจำเลยที่ 4 เป็นผู้ปฏิบัติการรับนโยบายมาดำเนินการ การชุมนุมมีหลายขั้นตอนต่อเนื่อง มีบางส่วนผิดกฎหมาย ไม่สงบ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า คำพิพากษาเสียงข้างน้อยหนึ่งท่านเห็นว่าจำเลยทั้งสี่คนผิด ซึ่งในส่วนนี้ป.ป.ช.ไม่ยึดมาเป็นมาตรฐาน เพราะคำพิพากษาส่วนตนระบุว่ามีความผิดตั้งแต่แผนกรกฎ 48 ซึ่งไม่ถูกต้อง แต่มี 2 ท่านที่เห็นว่าผิดเฉพาะพล.ต.ท.สุชาติ รวมแล้วมีองค์คณะ 3 ท่านที่เห็นว่าพล.ต.ท.สุชาติกระทำเกินกว่าเหตุ ป.ป.ช.จึงยึดคำพิพากษาเสียงข้างน้อย 3 เสียงนี้ยื่นอุทธรณ์เฉพาะพล.ต.ท.สุชาติ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติโดยตรง ประกอบกับการดำเนินการในช่วงนั้นของจำเลยที่ 4 ที่บริเวณหน้า บช.น.เกินกว่าเหตุ มีคนเจ็บคนตาย
“กระบวนการยุติธรรมต้องเป็นหลักในการระงับข้อพิพาท ไม่ใช่เอากระแสข้างนอกมาเป็นหลัก ผมกล้ารับผิดชอบต่อมติครั้งนี้ ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.วัชรพลถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับพล.ต.อ.พัชรวาทหนึ่งในจำเลยคดีนี้ พล.ต.อ.วัชรพลไม่ได้อภิปรายหรือแสดงความเห็นใด ๆ เพราะงดออกเสียงในการลงมติครั้งนี้” นายสุรศักดิ์ กล่าว
ส่วนกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ จะขอให้ยื่นขยายการอุทธรณ์คดี นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า การที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีความอาญาฯ ของศาลฎีกานัการเมืองยังไม่ออกมา จึงไม่สามารถร้องขยายเวลาอุทธรณ์ได้ ประกอบกับรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าให้อุทธรณ์ภายใน 30 วัน จึงไม่สามารถดำเนินการเป็นอย่างอื่นได้.-สำนักข่าวไทย